สถานที่ท่องเที่ยวทัวร์ยุโรป
วันที่ 1 | ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ - ท่าอากาศยานนานาชาติมัสกัต - มิวนิก เยอรมนี |
วันที่ 2 | มิวนิก - คาร์โลวี วารี่ - Hot Spring Colonnade – กรุงปราก |
วันที่ 3 | กรุงปราก – จัตุรัสเมืองเก่า (Old Town Square) - สะพานชาร์ลส์ – หอนาฬิกาดาราศาสตร์ อิสระเดินเล่น ช้อปปิ้ง ห้าง Palladium - จัตุรัส Wenceslas – เวียนนา |
วันที่ 4 | เวียนนา – ปาร์นดอฟ เอาท์เล็ต – พระราชวังเชินบรุนน์ – พระราชวังฮอฟเบิร์ก อนุสาวรีย์จักรพรรดิมาเรีย เทเรซ่า – ช้อปปิ้งถนนคาร์ทเนอร์ |
วันที่ 5 | เชสกี้ ครุมลอฟ – ซาลซ์บูร์ก- สวนมิราเบล – บ้านเกิดโมสาร์ท –ช้อปปิ้งถนนเกไทรย์เดอกาสเซอ |
วันที่ 6 | ฮัลล์สตัทท์ - มิวนิก – มาเรียนพลัสซ์ -ย่านถนนคนเดิน Maximilian Strasse |
วันที่ 7 | ท่าอากาศยานนานาชาติมัสกัต - ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ |
กำหนดวันเดินทาง (Periods) | ราคา / ท่าน | |
ผู้ใหญ่ พักห้องละ 2 ท่าน | พักเดี่ยว | |
14-20 / 28 พ.ค.- 3 มิ.ย.66 |
66,888.- |
15,000.- |
11-17 มิ.ย. / 10-16 ก.ย. 66 | ||
24-30 ก.ย. 66 |
69,888.- |
|
01-07 / 08-14 / 15-21 ต.ค. / 29 ต.ค. - 04 พ.ย. 66 | ||
22-28 ต.ค. 66 | 72,888.- | 18,000.- |
โปรแกรมการเดินทางทัวร์ยุโรป
วันแรก ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ - ท่าอากาศยานนานาชาติมัสกัต - มิวนิก เยอรมนี
05.30 น. คณะพร้อมกัน ณ สนามบินสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารขาออกระหว่างประเทศ ชั้น 4 ประตู 6 เคาน์เตอร์ M สายการบิน OMAN AIR (WY) โดยมีเจ้าหน้าที่บริษัทฯคอยต้อนรับและอำนวยความสะดวกด้านเอกสารการเดินทาง
***เที่ยวบินหรือเวลาอาจมีการเปลี่ยนแปลง ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสายการบินเป็นผู้กำหนด***
ขอสงวนสิทธิ์ในการเลือกที่นั่งบนเครื่องบิน เนื่องจากการจัดที่นั่งบนเครื่องบินเป็นสิทธิ์ของทางเจ้าหน้าที่เช็คอิน ซึ่งทางบริษัทไม่สามารถเข้าไปแทรกแซงได้
ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ - ท่าอากาศยานนานาชาติมัสกัต - มิวนิก เยอรมนี
09.10 น. ออกเดินทางสู่ ท่าอากาศยานนานาชาติมัสกัต ประเทศโอมาน โดยสายการบิน OMAN AIR เที่ยวบินที่ WY818 (บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง) (ใช้เวลาบินประมาณ 6 ชั่วโมง) (เวลาประเทศโอมานช้ากว่าประเทศไทย 3 ชั่วโมง)
12.05 น. เดินทางถึง ท่าอากาศยานนานาชาติมัสกัต ประเทศโอมาน (เวลาท้องถิ่น) นำท่านแวะพักเปลี่ยนเครื่องเพื่อเดินทางสู่ประเทศเยอรมนี (รอแวะเปลี่ยนเครื่องประมาณ 2 ชั่วโมง)
14.10 น. ออกเดินทางสู่ ท่าอากาศยานนานาชาติมิวนิก ประเทศเยอรมนี โดยสายการบิน OMAN AIR เที่ยวบินที่ WY123 (บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง) (ใช้เวลาบินประมาณ 6 ชั่วโมง 50 นาที)
19.00 น. ถึง ท่าอากาศยานนานาชาติมิวนิก ประเทศเยอรมัน นำท่านผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมือง,ศุลกากร และรับสัมภาระเรียบร้อย (เวลาประเทศเยอรมนีช้ากว่าประเทศไทย 5 ชั่วโมง)
นำท่านเดินทางเข้าที่พัก ณ Mercure Muenchen OST Messe หรือเทียบเท่าระดับเดียวกัน
05.30 น. คณะพร้อมกัน ณ สนามบินสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารขาออกระหว่างประเทศ ชั้น 4 ประตู 6 เคาน์เตอร์ M สายการบิน OMAN AIR (WY) โดยมีเจ้าหน้าที่บริษัทฯคอยต้อนรับและอำนวยความสะดวกด้านเอกสารการเดินทาง
***เที่ยวบินหรือเวลาอาจมีการเปลี่ยนแปลง ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสายการบินเป็นผู้กำหนด***
ขอสงวนสิทธิ์ในการเลือกที่นั่งบนเครื่องบิน เนื่องจากการจัดที่นั่งบนเครื่องบินเป็นสิทธิ์ของทางเจ้าหน้าที่เช็คอิน ซึ่งทางบริษัทไม่สามารถเข้าไปแทรกแซงได้
ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ - ท่าอากาศยานนานาชาติมัสกัต - มิวนิก เยอรมนี
09.10 น. ออกเดินทางสู่ ท่าอากาศยานนานาชาติมัสกัต ประเทศโอมาน โดยสายการบิน OMAN AIR เที่ยวบินที่ WY818 (บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง) (ใช้เวลาบินประมาณ 6 ชั่วโมง) (เวลาประเทศโอมานช้ากว่าประเทศไทย 3 ชั่วโมง)
12.05 น. เดินทางถึง ท่าอากาศยานนานาชาติมัสกัต ประเทศโอมาน (เวลาท้องถิ่น) นำท่านแวะพักเปลี่ยนเครื่องเพื่อเดินทางสู่ประเทศเยอรมนี (รอแวะเปลี่ยนเครื่องประมาณ 2 ชั่วโมง)
14.10 น. ออกเดินทางสู่ ท่าอากาศยานนานาชาติมิวนิก ประเทศเยอรมนี โดยสายการบิน OMAN AIR เที่ยวบินที่ WY123 (บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง) (ใช้เวลาบินประมาณ 6 ชั่วโมง 50 นาที)
19.00 น. ถึง ท่าอากาศยานนานาชาติมิวนิก ประเทศเยอรมัน นำท่านผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมือง,ศุลกากร และรับสัมภาระเรียบร้อย (เวลาประเทศเยอรมนีช้ากว่าประเทศไทย 5 ชั่วโมง)
นำท่านเดินทางเข้าที่พัก ณ Mercure Muenchen OST Messe หรือเทียบเท่าระดับเดียวกัน
วันที่สอง มิวนิก - คาร์โลวี วารี่ - Hot Spring Colonnade – กรุงปราก เช้า / กลางวัน / เย็น
เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านเดินทางสู่เมือง คาร์โลวี วารี่ (Karlovy Vary) เมืองแห่งบ่อน้ำพุร้อน เพราะสามารถพบเห็นได้มากในเมือง อุดมด้วยแร่ธาตุชั้นดีและมีคุณภาพสูง (ระยะทางประมาณ 314 กม./ 4.45 ชม.)
เที่ยง บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
นำท่านเที่ยวชมเมือง คาร์โลวี วารี่ (Karlovy Vary) เมืองแห่งบ่อน้ำพุร้อน เพราะสามารถพบเห็นได้มากในเมือง อุดมด้วยแร่ธาตุชั้นดีและมีคุณภาพสูง ปัจจุบันคาร์โลวี วารี่ กลายเป็นเมืองตากอากาศชื่อดัง
และเป็นเมืองแห่งสปาที่ใหญ่ที่สุดในสาธารณรัฐเช็ก ทั่วทั้งเมืองในคาร์โลวี วารี่ยังคงมีสถาปัตยกรรมตามอาคารต่างๆ ที่สวยงามให้ได้ชมกันไม่ต่างจากในปราก รูปปั้นนักบุญ อนุสาวรีย์และอาคารเก่าแก่ยังมีอยู่ทุกมุมเมือง ผังเมืองดูสวยงาม มีถนนกว้างขวาง แต่บริเวณที่ดูสวยงามได้บรรยากาศดีๆ นำท่านชมบ่อน้ำพุร้อนขนาดใหญ่ที่ Hot Spring Colonnade ซึ่งสร้างให้เป็นบ่อน้ำพุร้อนในจุดที่มีน้ำพุผุดขึ้นจากธรรมชาติ และลึกลงไปในดินถึง 2,000 เมตร น้ำที่ขึ้นมาจากดินนี้จะพุ่งขึ้นไปในอากาศสูงถึง 12 เมตร ได้ปริมาณมากถึง 2,000 ลิตรต่อนาที และเป็นน้ำที่ชาวคาร์โลวี วารี่ใช้ในการรักษาโรคมากว่า 600 ปีแล้ว แต่ก็จะมีบ่อแยกย่อยออกไปถึง 12 บ่อ แต่ละบ่อก็จะให้สรรพคุณของน้ำแตกต่างกัน เช่น ช่วยรักษาโรคเกี่ยวกับระบบการย่อยอาหาร โรคเบาหวาน โรคเกี่ยวกับระบบไหลเวียนเลือดในร่างกาย และยังช่วยลดอาการอ่อนเพลียไร้เรี่ยวแรงได้ ในบ่อน้ำเหล่านี้สามารถรองดื่มกินได้ โดยซื้อแก้วสำหรับตักชิมน้ำจากบ่อน้ำพุร้อน ที่มีบริการจำหน่ายอยู่ที่ด้านหน้า และยังนำแก้วเหล่านั้นเก็บไปเป็นของที่ระลึกได้อีกด้วย เพราะตกแต่งด้วยลวดลายอย่างสวยงามเป็นเอกลักษณ์ที่ดูไปแล้วคล้ายกับกาน้ำ จากนั้นนำท่านเดินทางสู่เมือง ปราก (Prague) เมืองที่ได้รับสมญานามว่า ดินแดนแห่งปราสาท ดินแดนแห่งอารยธรรม และดินแดนแห่งความงดงามของสิ่งปลูกสร้างจากอดีต (ระยะทางประมาณ 127 กม. / 2.15 ชม.)
เย็น รับประทานอาหารเย็น ณ ภัตตาคาร
นำท่านเข้าสู่ที่พัก ณ Hotel Duo หรือเทียบเท่าระดับเดียวกัน
เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านเดินทางสู่เมือง คาร์โลวี วารี่ (Karlovy Vary) เมืองแห่งบ่อน้ำพุร้อน เพราะสามารถพบเห็นได้มากในเมือง อุดมด้วยแร่ธาตุชั้นดีและมีคุณภาพสูง (ระยะทางประมาณ 314 กม./ 4.45 ชม.)
เที่ยง บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
นำท่านเที่ยวชมเมือง คาร์โลวี วารี่ (Karlovy Vary) เมืองแห่งบ่อน้ำพุร้อน เพราะสามารถพบเห็นได้มากในเมือง อุดมด้วยแร่ธาตุชั้นดีและมีคุณภาพสูง ปัจจุบันคาร์โลวี วารี่ กลายเป็นเมืองตากอากาศชื่อดัง
และเป็นเมืองแห่งสปาที่ใหญ่ที่สุดในสาธารณรัฐเช็ก ทั่วทั้งเมืองในคาร์โลวี วารี่ยังคงมีสถาปัตยกรรมตามอาคารต่างๆ ที่สวยงามให้ได้ชมกันไม่ต่างจากในปราก รูปปั้นนักบุญ อนุสาวรีย์และอาคารเก่าแก่ยังมีอยู่ทุกมุมเมือง ผังเมืองดูสวยงาม มีถนนกว้างขวาง แต่บริเวณที่ดูสวยงามได้บรรยากาศดีๆ นำท่านชมบ่อน้ำพุร้อนขนาดใหญ่ที่ Hot Spring Colonnade ซึ่งสร้างให้เป็นบ่อน้ำพุร้อนในจุดที่มีน้ำพุผุดขึ้นจากธรรมชาติ และลึกลงไปในดินถึง 2,000 เมตร น้ำที่ขึ้นมาจากดินนี้จะพุ่งขึ้นไปในอากาศสูงถึง 12 เมตร ได้ปริมาณมากถึง 2,000 ลิตรต่อนาที และเป็นน้ำที่ชาวคาร์โลวี วารี่ใช้ในการรักษาโรคมากว่า 600 ปีแล้ว แต่ก็จะมีบ่อแยกย่อยออกไปถึง 12 บ่อ แต่ละบ่อก็จะให้สรรพคุณของน้ำแตกต่างกัน เช่น ช่วยรักษาโรคเกี่ยวกับระบบการย่อยอาหาร โรคเบาหวาน โรคเกี่ยวกับระบบไหลเวียนเลือดในร่างกาย และยังช่วยลดอาการอ่อนเพลียไร้เรี่ยวแรงได้ ในบ่อน้ำเหล่านี้สามารถรองดื่มกินได้ โดยซื้อแก้วสำหรับตักชิมน้ำจากบ่อน้ำพุร้อน ที่มีบริการจำหน่ายอยู่ที่ด้านหน้า และยังนำแก้วเหล่านั้นเก็บไปเป็นของที่ระลึกได้อีกด้วย เพราะตกแต่งด้วยลวดลายอย่างสวยงามเป็นเอกลักษณ์ที่ดูไปแล้วคล้ายกับกาน้ำ จากนั้นนำท่านเดินทางสู่เมือง ปราก (Prague) เมืองที่ได้รับสมญานามว่า ดินแดนแห่งปราสาท ดินแดนแห่งอารยธรรม และดินแดนแห่งความงดงามของสิ่งปลูกสร้างจากอดีต (ระยะทางประมาณ 127 กม. / 2.15 ชม.)
เย็น รับประทานอาหารเย็น ณ ภัตตาคาร
นำท่านเข้าสู่ที่พัก ณ Hotel Duo หรือเทียบเท่าระดับเดียวกัน
วันที่สาม กรุงปราก – จัตุรัสเมืองเก่า (Old Town Square) - สะพานชาร์ลส์ – หอนาฬิกาดาราศาสตร์
อิสระเดินเล่น ช้อปปิ้ง ห้าง Palladium - จัตุรัส Wenceslas – เวียนนา
เช้า / กลางวัน / เย็น
เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านเที่ยวชมเมือง ปราก (Prague) เมืองแสนโรแมนติกที่ไม่ว่าใครมาก็ต้องหลงรัก ถ่ายภาพบริเวณ จัตุรัสเมืองเก่า ( Old Tow Square ) จัตุรัสศูนย์กลางที่สำคัญของกรุงปราก ที่เคยเป็นตลาดค้าขายตั้งแต่ปลายศตวรรษที่ 12 มีตึกรามบ้านเรือนล้อมรอบจตุรัสที่สวยงามและได้รับการอนุรักษ์ไว้เป็นอย่างดี ดื่มด่ำกับบรรยากาศของยุโรปในยุคโบราณขณะเดินออกจากร้านค้าสีสันสดใสไปยังร้านอาหารรอบๆ จัตุรัส จัตุรัส กลางเมืองแห่งนี้เต็มไปด้วยชีวิตชีวา คุณจะพบนักแสดงเร่ ศิลปิน และที่ใจกลางเมืองปราก เราจะได้เห็น หอนาฬิกาดาราศาสตร์ ซึ่งคอยทำหน้าที่บอกเวลาให้กับชาวเมืองทุกวัน
หอนาฬิกาดาราศาสตร์ถูกสร้างขึ้นในปี 1410 นอกจากเข็มนาฬิกาที่คอยบอกเวลาแล้วตัวเรือนสีฟ้ายังมีรูปปั้นนักบุญ ตัวเรือนนาฬิกาแสดงการโคจรของดวงอาทิตย์และดวงจันทร์ แสดงเดือนปัจจุบัน เมื่อเวลาเดินมาครบชั่วโมงจะมี เสียงระฆังดังกังวานและรูปปั้น 12 สาวกของพระเยซูคริสต์ที่พากันเดินขบวนกันอยู่หลังช่องหน้าปัด นำท่านชม สะพานชาร์ลส์ (Charles Bridge) อีกหนึ่งจุดหมายหลักที่พรากไม่ได้ สะพานแห่งนี้โดด เด่นด้วยรูปปั้นนักบุญเรียงตลอดความยาวของสะพาน และเป็นสิ่งก่อสร้างชิ้นสำคัญที่ชี้ให้คนยุคปัจจุบันเห็นได้ถึงความรุ่งเรืองในยุคสมัยของจักรพรรดิชาร์ลส์ที่ 4 ในบริเวณใกล้ย่าน Old Town ยังมี Palladium เป็นห้างสรรพสินค้าที่ตั้งอยู่ใจกลางเมืองปรากในสาธารณรัฐเช็ก ห้างสรรพสินค้านี้มีร้านค้า 170 ร้านค้าและร้านอาหาร 30 ร้านโดยมีพื้นที่ค้าปลีก 39,000 ตารางเมตร นอกจากนี้ยังมีพื้นที่สำนักงานในอาคารอีก 19,500 ตารางเมตร เป็นหนึ่งในศูนย์การค้าที่ใหญ่ที่สุดในสาธารณรัฐเช็ก อิสระกับการช้อปปิ้งและถ่ายรูปบริเวณ จัตุรัส Wenceslas (Václavské Náměstí) ตั้งอยู่ใจกลางย่าน New Town ในกรุงปราก มีความยาวทั้งสิ้น 2,460 ฟุต (750 เมตร) แหล่งรวมตัวของคนในท้องถิ่น และยังเป็นจุดเริ่มต้นของถนนสายช้อปปิ้งในกรุงปราก ในขณะที่ตอนกลางคืน บริเวณนี้จะกลายเป็นหนึ่งในย่านที่พลุกพล่านและมีชีวิตชีวาที่สุดของเมือง ชื่นชมสถาปัตยกรรมสไตล์อาร์ตนูโวสองฝั่งถนนขณะเดินดูสินค้าในร้านค้า หน้าพิพิธภัณฑ์มีรูปปั้นของ St. Wenceslas ซึ่งได้รับฉายาว่า "กษัตริย์ ผู้ทรงคุณธรรม" ในเพลงสรรเสริญประจำเทศกาลคริสต์มาสที่นิยมนำมาขับร้องกัน ไม่เพียงเป็นแหล่งช้อปปิ้ง และสถานบันเทิงยามค่ำคืนเท่านั้น แต่ยังมีประวัติศาสตร์อันยาวนานในฐานะจุดรวมพลและเฉลิมฉลองของชาวเมืองอีกด้วย
กลางวัน บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
นำท่านเดินทางสู่ กรุงเวียนนา (Vienna) (ระยะทาง 331 กม. / 4.45 ชม.) เมืองหลวงของประเทศออสเตรีย ศูนย์กลางวัฒนธรรม เศรษฐกิจ และการเมือง เมืองนี้ยังคงมนต์เสน่ห์แห่งเมืองหลวงของจักรวรรดิดอสเตรียในอดีต โดยยังคงร่องรอยของศิลปะ ดนตรีคลาสสิก สถาปัตยกรรม ประวัติศาสตร์ แหล่งอุดมวัฒนธรรม จนขึ้นชื่อว่าโรแมนติกที่สุดอีกเมืองของโลก
เย็น บริการอาหารเย็น ณ ภัตตาคาร
นำท่านเข้าสู่ที่พัก ณ Senator หรือเทียบเท่าระดับเดียวกัน
อิสระเดินเล่น ช้อปปิ้ง ห้าง Palladium - จัตุรัส Wenceslas – เวียนนา
เช้า / กลางวัน / เย็น
เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านเที่ยวชมเมือง ปราก (Prague) เมืองแสนโรแมนติกที่ไม่ว่าใครมาก็ต้องหลงรัก ถ่ายภาพบริเวณ จัตุรัสเมืองเก่า ( Old Tow Square ) จัตุรัสศูนย์กลางที่สำคัญของกรุงปราก ที่เคยเป็นตลาดค้าขายตั้งแต่ปลายศตวรรษที่ 12 มีตึกรามบ้านเรือนล้อมรอบจตุรัสที่สวยงามและได้รับการอนุรักษ์ไว้เป็นอย่างดี ดื่มด่ำกับบรรยากาศของยุโรปในยุคโบราณขณะเดินออกจากร้านค้าสีสันสดใสไปยังร้านอาหารรอบๆ จัตุรัส จัตุรัส กลางเมืองแห่งนี้เต็มไปด้วยชีวิตชีวา คุณจะพบนักแสดงเร่ ศิลปิน และที่ใจกลางเมืองปราก เราจะได้เห็น หอนาฬิกาดาราศาสตร์ ซึ่งคอยทำหน้าที่บอกเวลาให้กับชาวเมืองทุกวัน
หอนาฬิกาดาราศาสตร์ถูกสร้างขึ้นในปี 1410 นอกจากเข็มนาฬิกาที่คอยบอกเวลาแล้วตัวเรือนสีฟ้ายังมีรูปปั้นนักบุญ ตัวเรือนนาฬิกาแสดงการโคจรของดวงอาทิตย์และดวงจันทร์ แสดงเดือนปัจจุบัน เมื่อเวลาเดินมาครบชั่วโมงจะมี เสียงระฆังดังกังวานและรูปปั้น 12 สาวกของพระเยซูคริสต์ที่พากันเดินขบวนกันอยู่หลังช่องหน้าปัด นำท่านชม สะพานชาร์ลส์ (Charles Bridge) อีกหนึ่งจุดหมายหลักที่พรากไม่ได้ สะพานแห่งนี้โดด เด่นด้วยรูปปั้นนักบุญเรียงตลอดความยาวของสะพาน และเป็นสิ่งก่อสร้างชิ้นสำคัญที่ชี้ให้คนยุคปัจจุบันเห็นได้ถึงความรุ่งเรืองในยุคสมัยของจักรพรรดิชาร์ลส์ที่ 4 ในบริเวณใกล้ย่าน Old Town ยังมี Palladium เป็นห้างสรรพสินค้าที่ตั้งอยู่ใจกลางเมืองปรากในสาธารณรัฐเช็ก ห้างสรรพสินค้านี้มีร้านค้า 170 ร้านค้าและร้านอาหาร 30 ร้านโดยมีพื้นที่ค้าปลีก 39,000 ตารางเมตร นอกจากนี้ยังมีพื้นที่สำนักงานในอาคารอีก 19,500 ตารางเมตร เป็นหนึ่งในศูนย์การค้าที่ใหญ่ที่สุดในสาธารณรัฐเช็ก อิสระกับการช้อปปิ้งและถ่ายรูปบริเวณ จัตุรัส Wenceslas (Václavské Náměstí) ตั้งอยู่ใจกลางย่าน New Town ในกรุงปราก มีความยาวทั้งสิ้น 2,460 ฟุต (750 เมตร) แหล่งรวมตัวของคนในท้องถิ่น และยังเป็นจุดเริ่มต้นของถนนสายช้อปปิ้งในกรุงปราก ในขณะที่ตอนกลางคืน บริเวณนี้จะกลายเป็นหนึ่งในย่านที่พลุกพล่านและมีชีวิตชีวาที่สุดของเมือง ชื่นชมสถาปัตยกรรมสไตล์อาร์ตนูโวสองฝั่งถนนขณะเดินดูสินค้าในร้านค้า หน้าพิพิธภัณฑ์มีรูปปั้นของ St. Wenceslas ซึ่งได้รับฉายาว่า "กษัตริย์ ผู้ทรงคุณธรรม" ในเพลงสรรเสริญประจำเทศกาลคริสต์มาสที่นิยมนำมาขับร้องกัน ไม่เพียงเป็นแหล่งช้อปปิ้ง และสถานบันเทิงยามค่ำคืนเท่านั้น แต่ยังมีประวัติศาสตร์อันยาวนานในฐานะจุดรวมพลและเฉลิมฉลองของชาวเมืองอีกด้วย
กลางวัน บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
นำท่านเดินทางสู่ กรุงเวียนนา (Vienna) (ระยะทาง 331 กม. / 4.45 ชม.) เมืองหลวงของประเทศออสเตรีย ศูนย์กลางวัฒนธรรม เศรษฐกิจ และการเมือง เมืองนี้ยังคงมนต์เสน่ห์แห่งเมืองหลวงของจักรวรรดิดอสเตรียในอดีต โดยยังคงร่องรอยของศิลปะ ดนตรีคลาสสิก สถาปัตยกรรม ประวัติศาสตร์ แหล่งอุดมวัฒนธรรม จนขึ้นชื่อว่าโรแมนติกที่สุดอีกเมืองของโลก
เย็น บริการอาหารเย็น ณ ภัตตาคาร
นำท่านเข้าสู่ที่พัก ณ Senator หรือเทียบเท่าระดับเดียวกัน
วันที่สี่ เวียนนา – ปาร์นดอฟ เอาท์เล็ต – พระราชวังเชินบรุนน์ – พระราชวังฮอฟเบิร์ก
อนุสาวรีย์จักรพรรดิมาเรีย เทเรซ่า – ช้อปปิ้งถนนคาร์ทเนอร์ เช้า / - / -
เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านเดินทางสู่ เอาท์เลทแมคอาเธอร์ เกลน ปาร์นดอฟ (McArthur Glen Outlet Parndof)
เอาท์เลทขนาดใหญ่ที่เน้นแบรนด์เนมในราคาสุดพิเศษจำนวนมาก ภายในนั้นมากพร้อมด้วยแบรนด์ชั้นนำจากเกือบทั่วโลกมาให้เลือกซื้อเลือกช้อปกัน เช่น Gucci Burberry, Benetton, Calvin Klein, Crocs, Guess, Lacoste, Diesel และอีกมากมาย (ระยะทาง 48 กม. / 45 นาที)
** อิสระอาหารกลางวัน เพื่อให้ท่านเดินเล่น และช้อปปิ้งได้อย่างต่อเนื่อง**
เดินทางกลับสู่กรุงเวียนนา นำท่านเข้าชม พระราชวังเชินบรุนน์ (Schonbrunn Palace) พระราชวังขนาดใหญ่แสนงดงามที่อยู่คู่เวียนนามาตั้งแต่ศตวรรษที่ 18 พระราชวังสีเหลืองอ่อนแห่งนี้เคยเป็นที่ ประทับของจักรพรรดิแห่งราชวงศ์ฮับส์บูร์ก ตกแต่งอย่างประณีตสง่างามสมฐานนะพระราชวังหลวง พร้อมตกแต่งด้วยศิลปะชั้นเยี่ยมจำนวนมาก พระราชวังสไตล์บาโรคแห่งนี้มีจำนวนห้องมากถึง 1,441 ห้อง ที่ล้วนแล้วแต่ใหญ่โตและอลังการด้วยการสถาปัตยกรรมภายในและศิลปะแสนประณีต ด้วยความยิ่งใหญ่งดงาม และความสำคัญของพระราชวังแห่งนี้ ทำให้ได้ถูกขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกชิ้นสำคัญไปในปี 1996 ทั้งยังเป็นสถานที่ท่องเที่ยวอันดับต้นๆ ของเวียนนา และประเทศออสเตรียเลยทีเดียว จากนั้นนำท่านเที่ยวชมเมืองเวียนนาที่ประกอบไปด้วยอาคารสถาปัตยกรรมเก่าแก่อันงดงาม นำท่านผ่านชม โรงละครโอเปร่า ที่สร้างขึ้นในระหว่างปีค.ศ.1863-1869, ตึกรัฐสภา ซึ่งสร้างขึ้นในระหว่างปีค.ศ.1873-1883 เคยถูกใช้เป็นที่ทำการของสภาจักรวรรดิ ออสโตร-ฮังกาเรียนมาก่อนจักรวรรดิล่มสลาย แวะถ่ายภาพ พระราชวัง ฮอฟเบิร์ก (Hofburg Palace) ซึ่งเป็นกลุ่มอาคารที่เคยเป็นที่ประทับของราช สำนักฮัปสบูร์กมาตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ 13 จนถึงต้นคริสต์ศตวรรษที่ 20 นำท่านถ่ายภาพ อนุสาวรีย์จักรพรรดินีมาเรีย เทเรซ่า ซึ่งเป็นราชินีที่ทำให้ออสเตรียมีความเจริญรุ่งเรืองมากที่สุดในยุคที่ท่านขึ้นครองราชย์, โบสถ์สตีเฟนส์ (St. Stephen’s Cathedral) หนึ่งในแลนด์มาร์กของเวียนนาที่สวยงามโดด เด่นด้วยสถาปัตยกรรมแบบโกธิก โบสถ์แห่งนี้สร้างขึ้นตั้งแต่ปี 1137 และสร้างกันนาน 75 ปี รูปทรงตัวอาคารนั้นสูงแหลมเป็นหอคอย 136.7 เมตร และสร้างขึ้นเพื่ออุทิศให้แก่นักบุญสตีเฟนส์ และแม้จะเป็นโบสถ์โบราณอายุกว่า 600 ปี แต่ก็ยังคงความสำคัญ ความยิ่งใหญ่ และความงดงามไม่เสื่อมคลายแม้แต่น้อย อิสระให้ท่านได้ช้อปปิ้งแบบเต็มอิ่ม ณ คาร์ทเนอร์สตรีท (Karntner Strasse) ถนนสายนี้สืบประวัติมาตั้งแต่ยุคโรมัน ปัจจุบันเปลี่ยนสภาพเป็นถนนคนเดิน ปูด้วยแนวหิน และขนาบข้างด้วยอาคารร้านค้าทั้งเก่าและใหม่สลับกันไป บรรยากาศของผู้คน ร้านรวงริมทาง และอุณหภูมิเย็นสบาย กระตุ้นต่อมช้อปปิ้งของเราให้เดินเข้าออกร้านสวยอย่างไม่เหน็ดเหนื่อยเลยสักนิด ทั้งร้านขนม ร้านขายงานประดิษฐ์ และร้านขายเครื่องแก้วอื่นๆอีกมากมาย
** อิสระอาหารเย็นเพื่อให้ท่านเดินเล่น และช้อปปิ้งได้ตามอัธยาศัย**
นำท่านเข้าสู่ที่พัก ณ Senator หรือเทียบเท่าระดับเดียวกัน
อนุสาวรีย์จักรพรรดิมาเรีย เทเรซ่า – ช้อปปิ้งถนนคาร์ทเนอร์ เช้า / - / -
เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านเดินทางสู่ เอาท์เลทแมคอาเธอร์ เกลน ปาร์นดอฟ (McArthur Glen Outlet Parndof)
เอาท์เลทขนาดใหญ่ที่เน้นแบรนด์เนมในราคาสุดพิเศษจำนวนมาก ภายในนั้นมากพร้อมด้วยแบรนด์ชั้นนำจากเกือบทั่วโลกมาให้เลือกซื้อเลือกช้อปกัน เช่น Gucci Burberry, Benetton, Calvin Klein, Crocs, Guess, Lacoste, Diesel และอีกมากมาย (ระยะทาง 48 กม. / 45 นาที)
** อิสระอาหารกลางวัน เพื่อให้ท่านเดินเล่น และช้อปปิ้งได้อย่างต่อเนื่อง**
เดินทางกลับสู่กรุงเวียนนา นำท่านเข้าชม พระราชวังเชินบรุนน์ (Schonbrunn Palace) พระราชวังขนาดใหญ่แสนงดงามที่อยู่คู่เวียนนามาตั้งแต่ศตวรรษที่ 18 พระราชวังสีเหลืองอ่อนแห่งนี้เคยเป็นที่ ประทับของจักรพรรดิแห่งราชวงศ์ฮับส์บูร์ก ตกแต่งอย่างประณีตสง่างามสมฐานนะพระราชวังหลวง พร้อมตกแต่งด้วยศิลปะชั้นเยี่ยมจำนวนมาก พระราชวังสไตล์บาโรคแห่งนี้มีจำนวนห้องมากถึง 1,441 ห้อง ที่ล้วนแล้วแต่ใหญ่โตและอลังการด้วยการสถาปัตยกรรมภายในและศิลปะแสนประณีต ด้วยความยิ่งใหญ่งดงาม และความสำคัญของพระราชวังแห่งนี้ ทำให้ได้ถูกขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกชิ้นสำคัญไปในปี 1996 ทั้งยังเป็นสถานที่ท่องเที่ยวอันดับต้นๆ ของเวียนนา และประเทศออสเตรียเลยทีเดียว จากนั้นนำท่านเที่ยวชมเมืองเวียนนาที่ประกอบไปด้วยอาคารสถาปัตยกรรมเก่าแก่อันงดงาม นำท่านผ่านชม โรงละครโอเปร่า ที่สร้างขึ้นในระหว่างปีค.ศ.1863-1869, ตึกรัฐสภา ซึ่งสร้างขึ้นในระหว่างปีค.ศ.1873-1883 เคยถูกใช้เป็นที่ทำการของสภาจักรวรรดิ ออสโตร-ฮังกาเรียนมาก่อนจักรวรรดิล่มสลาย แวะถ่ายภาพ พระราชวัง ฮอฟเบิร์ก (Hofburg Palace) ซึ่งเป็นกลุ่มอาคารที่เคยเป็นที่ประทับของราช สำนักฮัปสบูร์กมาตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ 13 จนถึงต้นคริสต์ศตวรรษที่ 20 นำท่านถ่ายภาพ อนุสาวรีย์จักรพรรดินีมาเรีย เทเรซ่า ซึ่งเป็นราชินีที่ทำให้ออสเตรียมีความเจริญรุ่งเรืองมากที่สุดในยุคที่ท่านขึ้นครองราชย์, โบสถ์สตีเฟนส์ (St. Stephen’s Cathedral) หนึ่งในแลนด์มาร์กของเวียนนาที่สวยงามโดด เด่นด้วยสถาปัตยกรรมแบบโกธิก โบสถ์แห่งนี้สร้างขึ้นตั้งแต่ปี 1137 และสร้างกันนาน 75 ปี รูปทรงตัวอาคารนั้นสูงแหลมเป็นหอคอย 136.7 เมตร และสร้างขึ้นเพื่ออุทิศให้แก่นักบุญสตีเฟนส์ และแม้จะเป็นโบสถ์โบราณอายุกว่า 600 ปี แต่ก็ยังคงความสำคัญ ความยิ่งใหญ่ และความงดงามไม่เสื่อมคลายแม้แต่น้อย อิสระให้ท่านได้ช้อปปิ้งแบบเต็มอิ่ม ณ คาร์ทเนอร์สตรีท (Karntner Strasse) ถนนสายนี้สืบประวัติมาตั้งแต่ยุคโรมัน ปัจจุบันเปลี่ยนสภาพเป็นถนนคนเดิน ปูด้วยแนวหิน และขนาบข้างด้วยอาคารร้านค้าทั้งเก่าและใหม่สลับกันไป บรรยากาศของผู้คน ร้านรวงริมทาง และอุณหภูมิเย็นสบาย กระตุ้นต่อมช้อปปิ้งของเราให้เดินเข้าออกร้านสวยอย่างไม่เหน็ดเหนื่อยเลยสักนิด ทั้งร้านขนม ร้านขายงานประดิษฐ์ และร้านขายเครื่องแก้วอื่นๆอีกมากมาย
** อิสระอาหารเย็นเพื่อให้ท่านเดินเล่น และช้อปปิ้งได้ตามอัธยาศัย**
นำท่านเข้าสู่ที่พัก ณ Senator หรือเทียบเท่าระดับเดียวกัน
วันที่ห้า เชสกี้ ครุมลอฟ – ซาลซ์บูร์ก- สวนมิราเบล – บ้านเกิดโมสาร์ท –ช้อปปิ้งถนนเกไทรย์เดอกาสเซอ เช้า / กลางวัน / เย็น
เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านมุ่งหน้าสู่เมือง เชสกี้ คลุมลอฟ (ระยะทางประมาณ 201 กม./ 3.45 ชม.) นำท่านเที่ยวชมเมือง เชสกี้ ครุมลอฟ เมืองที่ล้อมรอบด้วยแม่น้ำวัลตาวาแห่งนี้นั้นมีเสน่ห์ด้วยการเป็นเมืองแห่งประวัติศาสตร์ ที่มีอดีตเป็นที่ตั้งชุมชนเก่าแก่และตกทอดให้เห็นหลักฐานเป็นอาคารหลายร้อยหลังที่สร้างกันมาตั้งแต่ช่วงยุคกลางแต่ยังคงอนุรักษ์เอาไว้อย่างดี ทำให้เชสกี้ ครุมลอฟ เป็นเมืองที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์และได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นเมืองมรดกโลกด้านการวางผังเมืองจากยูเนสโก้ไปเมื่อปี 1992 ที่ได้รับการขนานนามว่า “ไข่มุกแห่งโบฮีเมีย” นำท่านถ่ายรูปกับ ปราสาทครุมลอฟ (Cesky Krumlov Castle) ที่สร้างขึ้นเมื่อประมาณศตวรรษที่ 13 และก็เคยเป็นสมบัติของขุนนางใน 3 ตระกูล ปัจจุบันตกเป็นสมบัติของรัฐบาลสาธารณรัฐเช็กเป็นที่เรียบร้อย ด้านบนยอดหอคอยปราสาทเป็นจุดชมวิวที่สวยมากจุดหนึ่งเลย จะได้เห็นภาพเมืองเชสกี้ ครุมลอฟได้ชัดเจนขึ้น ทั้งแม่น้ำวัลตาวาล้อมคดเคี้ยวเป็นรูปตัวเอส (S) ตัวเมืองมีอาคารและปราสาทปะปนสลับกันไปมา ละลานตาไปด้วยสีส้มอิฐของหลังคาทั่วเมืองนั้นงดงามอย่างที่สุด อิสระให้ท่านเดินเล่นในย่านเมืองเก่า
เที่ยง บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
นำท่านเดินทางสู่เมือง ซาลส์บูร์ก เมืองใหญ่อันดับ 4 ของออสเตรียที่แสนจะโรแมนติก ทั้งยังเต็มไปด้วยความสวยงาม และคลาสสิก ความอลังการทางประวัติศาสตร์ทำให้ซาลส์บูร์กได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกเมื่อปี 1996 (ระยะทาง 216 กม. / 3.30 ชม.) ซาลซ์บูร์กมีความสวยงามของแนว “แม่น้ำซาลซ์แซค” (Salzach River) สีเขียวมรกตไหลผ่านซึ่งถือเป็นแม่น้ำสายหลักของออสเตรียที่ไหลผ่านไปจนถึงเยอรมนี นำท่านถ่ายภาพ สวนมิราเบล (Mirabell Garden) สวนสวยที่มีชื่อเสียงแห่งนี้เป็นส่วนหนึ่งของ พระราชวังมิราเบล (Mirabell Palace) แม้จะเป็นสวนเก่าแก่ตั้งแต่ปี 1690 แต่ก็ยังคงความสวยงามและเสน่ห์ของสวนสไตล์บารอก แวะถ่ายภาพ บ้านเกิดโมสาร์ท นักประพันธ์ชื่อก้องโลก บ้านหลังนี้ตั้งอยู่บน ถนนเกไทรย์เดอกาสเซอ (Getreidegasse) ถนนย่านการค้าสำคัญของเมืองที่เคยพลุกพล่านไปด้วยผู้คนที่ต่างก็หอบเอาสินค้าของตัวเองมาแลกเปลี่ยนซื้อขายกัน ปัจจุบันย่านนี้ก็ยังพลุกพล่านไปด้วยผู้คนเช่นเดิมเพราะถนนเกไทรย์เดอกาสเซอเป็นถนนสายช้อปปิ้งชื่อดังเป็นอีกแหล่ง ข้อปปิ้งที่ขาช้อปพลาดไม่ได้
เย็น รับประทานอาหารเย็น ณ ภัตตาคาร
นำท่านเข้าสู่ที่พัก ณ St. Virgil Salzburg หรือเทียบเท่าระดับเดียวกัน
เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านมุ่งหน้าสู่เมือง เชสกี้ คลุมลอฟ (ระยะทางประมาณ 201 กม./ 3.45 ชม.) นำท่านเที่ยวชมเมือง เชสกี้ ครุมลอฟ เมืองที่ล้อมรอบด้วยแม่น้ำวัลตาวาแห่งนี้นั้นมีเสน่ห์ด้วยการเป็นเมืองแห่งประวัติศาสตร์ ที่มีอดีตเป็นที่ตั้งชุมชนเก่าแก่และตกทอดให้เห็นหลักฐานเป็นอาคารหลายร้อยหลังที่สร้างกันมาตั้งแต่ช่วงยุคกลางแต่ยังคงอนุรักษ์เอาไว้อย่างดี ทำให้เชสกี้ ครุมลอฟ เป็นเมืองที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์และได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นเมืองมรดกโลกด้านการวางผังเมืองจากยูเนสโก้ไปเมื่อปี 1992 ที่ได้รับการขนานนามว่า “ไข่มุกแห่งโบฮีเมีย” นำท่านถ่ายรูปกับ ปราสาทครุมลอฟ (Cesky Krumlov Castle) ที่สร้างขึ้นเมื่อประมาณศตวรรษที่ 13 และก็เคยเป็นสมบัติของขุนนางใน 3 ตระกูล ปัจจุบันตกเป็นสมบัติของรัฐบาลสาธารณรัฐเช็กเป็นที่เรียบร้อย ด้านบนยอดหอคอยปราสาทเป็นจุดชมวิวที่สวยมากจุดหนึ่งเลย จะได้เห็นภาพเมืองเชสกี้ ครุมลอฟได้ชัดเจนขึ้น ทั้งแม่น้ำวัลตาวาล้อมคดเคี้ยวเป็นรูปตัวเอส (S) ตัวเมืองมีอาคารและปราสาทปะปนสลับกันไปมา ละลานตาไปด้วยสีส้มอิฐของหลังคาทั่วเมืองนั้นงดงามอย่างที่สุด อิสระให้ท่านเดินเล่นในย่านเมืองเก่า
เที่ยง บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
นำท่านเดินทางสู่เมือง ซาลส์บูร์ก เมืองใหญ่อันดับ 4 ของออสเตรียที่แสนจะโรแมนติก ทั้งยังเต็มไปด้วยความสวยงาม และคลาสสิก ความอลังการทางประวัติศาสตร์ทำให้ซาลส์บูร์กได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกเมื่อปี 1996 (ระยะทาง 216 กม. / 3.30 ชม.) ซาลซ์บูร์กมีความสวยงามของแนว “แม่น้ำซาลซ์แซค” (Salzach River) สีเขียวมรกตไหลผ่านซึ่งถือเป็นแม่น้ำสายหลักของออสเตรียที่ไหลผ่านไปจนถึงเยอรมนี นำท่านถ่ายภาพ สวนมิราเบล (Mirabell Garden) สวนสวยที่มีชื่อเสียงแห่งนี้เป็นส่วนหนึ่งของ พระราชวังมิราเบล (Mirabell Palace) แม้จะเป็นสวนเก่าแก่ตั้งแต่ปี 1690 แต่ก็ยังคงความสวยงามและเสน่ห์ของสวนสไตล์บารอก แวะถ่ายภาพ บ้านเกิดโมสาร์ท นักประพันธ์ชื่อก้องโลก บ้านหลังนี้ตั้งอยู่บน ถนนเกไทรย์เดอกาสเซอ (Getreidegasse) ถนนย่านการค้าสำคัญของเมืองที่เคยพลุกพล่านไปด้วยผู้คนที่ต่างก็หอบเอาสินค้าของตัวเองมาแลกเปลี่ยนซื้อขายกัน ปัจจุบันย่านนี้ก็ยังพลุกพล่านไปด้วยผู้คนเช่นเดิมเพราะถนนเกไทรย์เดอกาสเซอเป็นถนนสายช้อปปิ้งชื่อดังเป็นอีกแหล่ง ข้อปปิ้งที่ขาช้อปพลาดไม่ได้
เย็น รับประทานอาหารเย็น ณ ภัตตาคาร
นำท่านเข้าสู่ที่พัก ณ St. Virgil Salzburg หรือเทียบเท่าระดับเดียวกัน
วันที่หก ฮัลล์สตัทท์ - มิวนิก – มาเรียนพลัสซ์ -ย่านถนนคนเดิน Maximilian Strasse
เช้า / กลางวัน /-
เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านเดินทางสู่ เมืองฮัลล์สตัทท์ (Hallstatt) (ระยะทาง 75 กม. / 1.30 ชม.) เมืองมรดกโลกเก่าแก่อายุกว่า 4,000 ปี และมีความเจริญรุ่งเรืองเกิดขึ้นมากในช่วงประมาณเกือบพันปีที่ผ่านมา เมืองนี้สวยและมีเอกลักษณ์สำคัญอยู่ที่การเป็นเมืองติดทะเลสาบและรายล้อมด้วยภูเขาสูง มีความสวยงามของทัศนียภาพราวกับภาพวาด และก็เป็นที่สุดของการมีบรรยากาศที่โรแมนติก ฉายาที่บ่งบอกถึงความสวยงามล้ำค่าของฮัลล์สตัทท์ก็คือ “ไข่มุกแห่งออสเตรีย” และสุดท้ายก็ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์โดยองค์การยูเนสโก้ในปี 1997 นักท่องเที่ยวสามารถเที่ยวชมความสวยงามของเมืองฮัลล์สตัทท์ เดินเล่นถ่ายภาพ ชมโบสถ์ประจำเมือง ถ่ายรูปสวยๆ ที่ เซ็นทรัลสแควร์ (Central Square Marktplatz) จัตุรัสกลางเมืองที่โดดเด่นด้วยรูปปั้นโฮลี่ทรินิตี้ เป็นเป็นสถานที่จัดงานเทศกาลต่างๆ ด้วย ชม โบสถ์พาริช (Parish Church) โบสถ์สวยริมทะเลสาบแห่งนี้มีอายุกว่า 500 ปีแล้วแต่ก็เป็นไฮไลท์สวยๆ ของเมืองที่พลาดไม่ได้
กลางวัน บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร เมนูพิเศษ!! ปลาเทราต์
หลังอาหารนำท่านเดินทางกลับสู่เมือง มิวนิก (ระยะทาง 209 กม. / 3 ชม.) เมืองใหญ่ที่อยู่ทางใต้ของประเทศเยอรมนีและเมืองหลวงของแคว้นบาวาเรียเมืองศูนย์กลางระดับโลกในด้านศิลปะ วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี การเงิน สิ่งพิมพ์ วัฒนธรรม นวัตกรรม การศึกษา ธุรกิจ และการท่องเที่ยว จากนั้นนำท่านเที่ยวชม เมืองมิวนิก (Munich) เมืองเป้าหมายที่นักท่องเที่ยวให้ความนิยมมาก เพราะถือเป็นศูนย์รวมความน่าสนใจ ความสวยงามของศิลปะ โบราณสถาน สถาปัตยกรรมและประวัติศาสตร์ที่สำคัญครบถ้วนทุกด้าน เที่ยวชมถ่ายภาพจัตุรัสกลางใจเมือง มาเรียนพลัสซ์ (Marienplatz) ในเขตเมืองเก่าที่เป็นเหมือนจุดเริ่มต้นของการทำความรู้จักกับมิวนิค ปัจจุบันใช้เป็นสถานที่สำหรับงานพิธีต่างๆ ที่สำคัญของเมือง ที่บริเวณจัตุรัสมาเรียนพลัสซ์นี้เองที่เราจะได้เห็น ศาลาว่าการใหม่ (New Town Hall) ที่ได้ใช้ทำการแทนศาลาว่าการเก่าตั้งแต่ปี 1874 เห็นได้ง่ายด้วยหอคอยแหลมสูงและการออกแบบและตกแต่งอย่างประณีตไม่แพ้ปราสาทหรือพระราชวัง ที่มีจุดเด่นอยู่ที่ หอนาฬิกา Glockenspiel ที่มีตุ๊กตาออกมาเต้นระบํา ทุกวัน ตอน 11 โมงเช้า และจะเพิ่มรอบในช่วงหน้าร้อน ตอน 5 โมงเย็นโดยตุ๊กตาจะมี 2 ชั้น ชั้นบนเป็นเรื่องราวการแต่งงาน ชั้นล่างเป็นการเต้นรำแบบพื้นเมือง บริเวณใกล้กันนั้นเป็น ศาลาว่าการเก่า (Old Town Hall) อาคารสีขาวสะอาดหลังนี้เป็นศาลาว่าการของเมืองมิวนิคมาตั้งแต่ปี 1310 แม้จะผ่านมากว่า 700 ปี แต่ก็ยังสวยและสง่าด้วยศิลปะสไตล์โกธิค นำท่านถ่ายภาพกับ โบสถ์แม่พระมิวนิก (Frauenkirche) เป็นโบสถ์คริสต์ระดับอาสนวิหารของนิกายโรมันคาทอลิกในนครมิวนิก จุดเด่นของโบสถ์แห่งนี้คือ หอคอยหัวหอมคู่ โดมหอมหัวใหญ่สีฟ้าเขียว 2 โดม ซึ่งเป็นหอคอยที่มีความสูงถึง 99 เมตร ใกล้กันมี โบสถ์เซนต์ไมเคิล (St. Michael Church) แต่เดิมเป็นโบสถ์พระเยซูอิตซึ่งเป็นนิกายเก่าแก่นิกายหนึ่งของศาสนาคริสต์ ปัจจุบันเป็นโบสถ์คาทอลิค อิสระให้ท่านเดินเล่นช้อปปิ้งตามอัธยาศัย ย่านถนนคนเดิน Maximilian Strasse เป็นอีกหนึ่งถนนช้อปปิ้ง มิวนิค ที่มีชื่อเสียง เหมาะสำหรับผู้ที่หลงรักแฟชั่น ตลอดทางเดินของถนนสายนี้ เต็มไปด้วยร้านเสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า น้ำหอม จากแบรนด์ดังมากมาย ตั้งแต่แบรนด์ไฮเอนด์อย่าง Cartier, Montblanc, Dolce & Gabbana, Valentino, Gucci ไป จนถึงแบรนด์ดังของเยอรมันในราคาคุ้มค่ากับการเป็นเจ้าของ
** อิสระอาหารเย็น เพื่อให้ท่านสะดวกต่อการช้อปปิ้ง **
ได้เวลาอันสมควรนำท่านเดินทางไปยัง ท่าอากาศยานนานาชาติมิวนิก
22.15 น. ออกเดินทางสู่ ประเทศโอมาน โดย สายการบิน OMAN AIR (WY) เที่ยวบินที่ WY124
(ใช้เวลาบินประมาณ 6 ชั่วโมง 25 นาที)
เช้า / กลางวัน /-
เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านเดินทางสู่ เมืองฮัลล์สตัทท์ (Hallstatt) (ระยะทาง 75 กม. / 1.30 ชม.) เมืองมรดกโลกเก่าแก่อายุกว่า 4,000 ปี และมีความเจริญรุ่งเรืองเกิดขึ้นมากในช่วงประมาณเกือบพันปีที่ผ่านมา เมืองนี้สวยและมีเอกลักษณ์สำคัญอยู่ที่การเป็นเมืองติดทะเลสาบและรายล้อมด้วยภูเขาสูง มีความสวยงามของทัศนียภาพราวกับภาพวาด และก็เป็นที่สุดของการมีบรรยากาศที่โรแมนติก ฉายาที่บ่งบอกถึงความสวยงามล้ำค่าของฮัลล์สตัทท์ก็คือ “ไข่มุกแห่งออสเตรีย” และสุดท้ายก็ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์โดยองค์การยูเนสโก้ในปี 1997 นักท่องเที่ยวสามารถเที่ยวชมความสวยงามของเมืองฮัลล์สตัทท์ เดินเล่นถ่ายภาพ ชมโบสถ์ประจำเมือง ถ่ายรูปสวยๆ ที่ เซ็นทรัลสแควร์ (Central Square Marktplatz) จัตุรัสกลางเมืองที่โดดเด่นด้วยรูปปั้นโฮลี่ทรินิตี้ เป็นเป็นสถานที่จัดงานเทศกาลต่างๆ ด้วย ชม โบสถ์พาริช (Parish Church) โบสถ์สวยริมทะเลสาบแห่งนี้มีอายุกว่า 500 ปีแล้วแต่ก็เป็นไฮไลท์สวยๆ ของเมืองที่พลาดไม่ได้
กลางวัน บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร เมนูพิเศษ!! ปลาเทราต์
หลังอาหารนำท่านเดินทางกลับสู่เมือง มิวนิก (ระยะทาง 209 กม. / 3 ชม.) เมืองใหญ่ที่อยู่ทางใต้ของประเทศเยอรมนีและเมืองหลวงของแคว้นบาวาเรียเมืองศูนย์กลางระดับโลกในด้านศิลปะ วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี การเงิน สิ่งพิมพ์ วัฒนธรรม นวัตกรรม การศึกษา ธุรกิจ และการท่องเที่ยว จากนั้นนำท่านเที่ยวชม เมืองมิวนิก (Munich) เมืองเป้าหมายที่นักท่องเที่ยวให้ความนิยมมาก เพราะถือเป็นศูนย์รวมความน่าสนใจ ความสวยงามของศิลปะ โบราณสถาน สถาปัตยกรรมและประวัติศาสตร์ที่สำคัญครบถ้วนทุกด้าน เที่ยวชมถ่ายภาพจัตุรัสกลางใจเมือง มาเรียนพลัสซ์ (Marienplatz) ในเขตเมืองเก่าที่เป็นเหมือนจุดเริ่มต้นของการทำความรู้จักกับมิวนิค ปัจจุบันใช้เป็นสถานที่สำหรับงานพิธีต่างๆ ที่สำคัญของเมือง ที่บริเวณจัตุรัสมาเรียนพลัสซ์นี้เองที่เราจะได้เห็น ศาลาว่าการใหม่ (New Town Hall) ที่ได้ใช้ทำการแทนศาลาว่าการเก่าตั้งแต่ปี 1874 เห็นได้ง่ายด้วยหอคอยแหลมสูงและการออกแบบและตกแต่งอย่างประณีตไม่แพ้ปราสาทหรือพระราชวัง ที่มีจุดเด่นอยู่ที่ หอนาฬิกา Glockenspiel ที่มีตุ๊กตาออกมาเต้นระบํา ทุกวัน ตอน 11 โมงเช้า และจะเพิ่มรอบในช่วงหน้าร้อน ตอน 5 โมงเย็นโดยตุ๊กตาจะมี 2 ชั้น ชั้นบนเป็นเรื่องราวการแต่งงาน ชั้นล่างเป็นการเต้นรำแบบพื้นเมือง บริเวณใกล้กันนั้นเป็น ศาลาว่าการเก่า (Old Town Hall) อาคารสีขาวสะอาดหลังนี้เป็นศาลาว่าการของเมืองมิวนิคมาตั้งแต่ปี 1310 แม้จะผ่านมากว่า 700 ปี แต่ก็ยังสวยและสง่าด้วยศิลปะสไตล์โกธิค นำท่านถ่ายภาพกับ โบสถ์แม่พระมิวนิก (Frauenkirche) เป็นโบสถ์คริสต์ระดับอาสนวิหารของนิกายโรมันคาทอลิกในนครมิวนิก จุดเด่นของโบสถ์แห่งนี้คือ หอคอยหัวหอมคู่ โดมหอมหัวใหญ่สีฟ้าเขียว 2 โดม ซึ่งเป็นหอคอยที่มีความสูงถึง 99 เมตร ใกล้กันมี โบสถ์เซนต์ไมเคิล (St. Michael Church) แต่เดิมเป็นโบสถ์พระเยซูอิตซึ่งเป็นนิกายเก่าแก่นิกายหนึ่งของศาสนาคริสต์ ปัจจุบันเป็นโบสถ์คาทอลิค อิสระให้ท่านเดินเล่นช้อปปิ้งตามอัธยาศัย ย่านถนนคนเดิน Maximilian Strasse เป็นอีกหนึ่งถนนช้อปปิ้ง มิวนิค ที่มีชื่อเสียง เหมาะสำหรับผู้ที่หลงรักแฟชั่น ตลอดทางเดินของถนนสายนี้ เต็มไปด้วยร้านเสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า น้ำหอม จากแบรนด์ดังมากมาย ตั้งแต่แบรนด์ไฮเอนด์อย่าง Cartier, Montblanc, Dolce & Gabbana, Valentino, Gucci ไป จนถึงแบรนด์ดังของเยอรมันในราคาคุ้มค่ากับการเป็นเจ้าของ
** อิสระอาหารเย็น เพื่อให้ท่านสะดวกต่อการช้อปปิ้ง **
ได้เวลาอันสมควรนำท่านเดินทางไปยัง ท่าอากาศยานนานาชาติมิวนิก
22.15 น. ออกเดินทางสู่ ประเทศโอมาน โดย สายการบิน OMAN AIR (WY) เที่ยวบินที่ WY124
(ใช้เวลาบินประมาณ 6 ชั่วโมง 25 นาที)
วันที่เจ็ด ท่าอากาศยานนานาชาติมัสกัต - ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ
06.40 น. เดินทางถึง ท่าอากาศยานนานาชาติมัสกัต ประเทศโอมาน นำท่านแวะพักเปลี่ยนเครื่อง เพื่อเดินทางสู่ประเทศไทย (รอแวะเปลี่ยนเครื่องประมาณ 2 ชั่วโมง 10 นาที)
08.50 น. ออกเดินทางสู่ ประเทศไทย โดย สายการบิน OMAN AIR (WY) เที่ยวบินที่ WY815
(ใช้เวลาบินประมาณ 6 ชั่วโมง 10 นาที)
18.00 น. เดินทางถึง สนามบินสุวรรณภูมิ โดยสวัสดิภาพและความประทับใจ
06.40 น. เดินทางถึง ท่าอากาศยานนานาชาติมัสกัต ประเทศโอมาน นำท่านแวะพักเปลี่ยนเครื่อง เพื่อเดินทางสู่ประเทศไทย (รอแวะเปลี่ยนเครื่องประมาณ 2 ชั่วโมง 10 นาที)
08.50 น. ออกเดินทางสู่ ประเทศไทย โดย สายการบิน OMAN AIR (WY) เที่ยวบินที่ WY815
(ใช้เวลาบินประมาณ 6 ชั่วโมง 10 นาที)
18.00 น. เดินทางถึง สนามบินสุวรรณภูมิ โดยสวัสดิภาพและความประทับใจ
เงื่อนไขทัวร์ยุโรป
อัตราค่าบริการนี้รวม
|
R ค่าตั๋วเครื่องบินไป-กลับพร้อมคณะ
R ค่าภาษีสนามบินทุกแห่งที่ระบุตามรายการ
R ค่าน้ำหนักกระเป๋าสัมภาระท่านละไม่เกิน 30 กิโลกรัม และถือขึ้นเครื่องไม่เกิน 7 กิโลกรัม
R ค่ารถรับ-ส่งและนำเที่ยวตามรายการ พร้อมคนขับรถที่ชำนาญเส้นทาง กฎหมายในยุโรปไม่อนุญาตให้คนขับรถเกิน 12 ช.ม./วัน
R ค่าที่พักตามที่ระบุในรายการ พักห้องละ 2 ท่าน โรงแรมส่วนใหญ่ในยุโรปจะไม่มีเครื่องปรับอากาศ เนื่องจากอยู่ในแถบที่มีอุณหภูมิต่ำและราคาโรงแรมจะปรับขึ้น 3-4 เท่าตัว หากวันเข้าพักตรงกับงานเทศกาลเทรดแฟร์หรือการประชุมต่างๆ อันเป็นผลที่ทำให้ต้องมีการปรับเปลี่ยนย้ายเมือง โดยคำนึงถึงความเหมาะสมเป็นหลัก เนื่องจากการวางแพลนห้องพักของแต่ละโรงแรมแตกต่างกัน จึงอาจทำให้ห้องพักแบบห้องเดี่ยว (Single) ,ห้องคู่ (Twin/Double) ห้องพักต่างประเภทอาจจะไม่ติดกัน หรือ อยู่คนละชั้นกัน และบางโรงแรมอาจจะไม่มีห้องพักแบบ 3 ท่าน/3 เตียง (Triple Room) ทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการเรียกเก็บเงินเพิ่มเติมในกรณีที่มีการแยกห้องพัก โรงแรมในยุโรปที่มีลักษณะเป็น Traditional Building ห้องที่เป็นห้องเดี่ยวอาจเป็นห้องที่มีขนาดกะทัดรัต และไม่มีอ่างอาบน้ำ ซึ่งขึ้นอยู่กับการออกแบบของแต่ละโรงแรมนั้นๆ และห้องแต่ละห้องอาจมีลักษณะแตกต่างกัน
กรณีที่มีการจัดงานประชุมนานาชาติ (Trade Fair) เป็นผลให้ค่าโรงแรมสูงขึ้นมาก และห้องพักในเมืองเต็ม บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิในการปรับเปลี่ยนหรือย้ายเมือง เพื่อให้เกิดความเหมาสม
R ค่าเข้าชมสถานที่ต่างๆ ตามรายการ
R ค่าอาหารตามมื้อที่ระบุในรายการ
R ค่ามัคคุเทศก์ผู้มีประสบการณ์นำเที่ยวคอยบริการและอำนวยความสะดวกตลอดการเดินทาง
R ค่าประกันอุบัติเหตุระหว่างเดินทาง วงเงินท่านละ 1,000,000 บาท (เงื่อนไขตามกรมธรรม์)
อัตราค่าบริการนี้ ไม่ รวม
|
- ค่าภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% และภาษีหัก ณ ที่จ่าย 3%
- ค่าธรรมเนียมการยื่นวีซ่ายุโรปหรือกลุ่มเชงเก้นวีซ่า และค่าบริการยื่นวีซ่า (ค่าวีซ่าโดยประมาณ 4,500-5,000 บาทขึ้นอยู่กับอัตราแลกเปลี่ยนของสถานทูตกำหนด)
- ค่าใช้จ่ายส่วนตัวนอกเหนือจากรายการที่ระบุ เช่น ค่าทำหนังสือเดินทาง,ค่าโทรศัพท์,ค่าอินเตอร์เน็ต,ค่าซักรีด,มินิบาร์ในห้อง รวมถึงค่าอาหารพิเศษนอกเหนือจากที่ทัวร์กำหนด และรวมถึงการรีเควสอาหารพิเศษต่าง ๆ เช่น อาหารเจ อาหารมังสวิรัติ และอาหารอิสลาม มุสลิม อาหารทะเล เป็นต้น รวมไปถึงเครื่องดื่มที่สั่งเพิ่มนอกเหนือรายการ ค่าธรรมเนียมหนังสือเดินทาง,ค่าน้ำหนักเกินจากทางสายการบินกำหนด,ค่ารักษาพยาบาล กรณีเกิดการเจ็บป่วยจากโรคประจำตัว,ค่ากระเป๋าเดินทางหรือของมีค่าที่สูญหายในระหว่างการเดินทางเป็นต้น
- ค่าทิปคนขับรถ, มัคคุเทศก์ท้องถิ่น ท่านละ 3,000 บาท ชำระที่สนามบินก่อนออกเดินทาง
- ค่าทิปหัวหน้าทัวร์คนไทย ตามมาตรฐานการให้ทิปโดยปกติวันละ 100 บาท /ท่าน /วัน
- ค่าธรรมเนียมน้ำมัน และภาษีสนามบิน ในกรณีที่สายการบินมีการปรับขึ้นราคา
T ค่าตรวจ RT-PCR TEST (ถ้ามี)