สถานที่ท่องเที่ยวทัวร์ตุรกี
วันที่ 1 | สุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ • อิสตันบูล ตุรกี |
วันที่ 2 | อิสตันบูล • พระราชวังโดลมาบาห์เช่ • ช่องแคบบอสพอรัส • พระราชวังทอปกาปึ • อุโมงค์เก็บน้ำเยเรบาตัน • ฮิปโปโดรม • บลูมอสก์ • ฮายาโซฟีอา • ตลาดแกรนด์บาซาร์ |
วันที่ 3 | อิสตันบูล • อิซเมียร์ • Alacati • คุชาดาสึ |
วันที่ 4 | เมืองคุซาดาสึ • เมืองโบราณเอฟฟิซุส • โรงงานผลิตเสื้อหนัง • บ้านพระแม่มารี • Turkish Delight • ปามุคคาเล่ |
วันที่ 5 | ปามุคคาเล่ • ปราสาทปุยฝ้าย • เฮียราโพลิส • คอนย่า • พิพิธภัณฑ์เมฟลาน่า |
วันที่ 6 | เมืองคอนย่า • เมืองคัปปาโดเกีย • สถานีคาราวาน • นครใต้ดินคาดัค • โรงงานผลิตพรมทอมือ • โชว์ระบำหน้าทอง |
วันที่ 7 | เมืองคัปปาโดเกีย • พิพิธภัณฑ์กลางแจ้งเกอเรเม • ร้านจิวเวอร์รี่และเซรามิค • ชมหุบเขาแบบพาโนรามิค • สุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ |
วันที่ 8 | สนามบินอิสตันบูล • สุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ |
มหัศจรรย์...TURKEY บินตรงสู่อิสตันบูล สายการบินเตอร์กิช แอร์ไลน์ 8 วัน 5 คืน (TK) |
|||||
วันเดินทาง | จำนวน | ผู้ใหญ่ | เด็กมีเตียง | เด็กไม่มีเตียง | พักเดี่ยว |
06 – 13 ก.ค. 65 | 25+1 | 37,999 | 37,499 | 36,999 | 7,000 |
21 – 28 ก.ค. 65 | 25+1 | 39,999 | 39,499 | 38,999 | 7,000 |
06 – 13 ส.ค. 65 | 25+1 | 38,999 | 38,499 | 37,999 | 7,000 |
18 – 25 ส.ค. 65 | 25+1 | 39,999 | 39,499 | 38,999 | 7,000 |
โปรแกรมการเดินทางทัวร์ตุรกี
วันแรก สุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ • อิสตันบูล ตุรกี
|
20.00 น. พร้อมกันที่สนามบินสุวรรณภูมิ เคาน์เตอร์สายการบินเตอร์กิชแอร์ไลน์ เคาน์เตอร์ U ประตู 9
Turkish Airlines (TK) โดยมีเจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวกแก่ทุกท่าน
23.00 น. ออกเดินทาง สู่ประเทศตุรกี เมืองอิสตันบูล โดยเที่ยวบินที่ TK 69
วันที่สอง อิสตันบูล • พระราชวังโดลมาบาห์เช่ • ช่องแคบบอสพอรัส • พระราชวังทอปกาปึ • อุโมงค์เก็บน้ำเยเรบาตัน • ฮิปโปโดรม • บลูมอสก์ • ฮายาโซฟีอา • ตลาดแกรนด์บาซาร์ ä (-/กลางวัน/เย็น) |
05.15 น. เดินทางถึง ท่าอากาศยานอิสตันบูล สนามบินแห่งใหม่ของ ประเทศตุรกี พบการต้อนรับอย่างอบอุ่นจากเจ้าหน้าที่ (เวลาท้องถิ่นที่ตุรกีช้ากว่าประเทศไทย 4 ชั่วโมง) เมืองอิสตันบูล เป็นเมืองที่มีประชากรมากที่สุดในประเทศตุรกี ตั้งอยู่บริเวณช่องแคบบอสฟอรัส ซึ่งทำให้อิสตันบูลเป็นเมืองสำคัญเพียงเมืองเดียวในโลก ที่ตั้งอยู่ใน 2 ทวีป คือ ทวีปยุโรป (ฝั่ง Thrace ของบอสฟอรัส) และทวีปเอเชีย (ฝั่งอานาโตเลีย)
นำท่าน ชม พระราชวังโดลมาบาห์เช่ (Dolmabahce Palace) ซึ่งสร้างเสร็จในสมัยของสุลต่านอับดุลเมจิตซึ่งทรงคลั่งไคลความเป็นยุโรปอย่างที่สุดทรงมีพระประสงค์จะให้พระราชวังแห่งนี้เป็นที่ประทับแห่งใหม่แทนพระราชวังทอปกาปิการอสร้างพระราชวังโดลมาบาห์เช เน้นความหรูหราอลังการสะท้อนความเป็นสถาปัตยกรรมแบบยุโรปที่เด่นชัด ด้านหน้าพระราชวังมีหอนาฬิกาใหญ่สไตล์บาร็อกตั้งตระหง่าน ขณะที่ตัวพระราชวังนั้นงดงามด้วยศิลปะแบบนีโอคลาสสิก ลูกกรงบันไดยังตกแต่งด้วยแก้วเจียระไน ห้องโถงใหญ่ประดับ
จากนั้น นำท่านล่องเรือช่องแคบบอสพอรัส(Bosporus Strait) เป็นช่องแคบที่กั้นระหว่างตุรกีเธรซที่อยู่ในทวีปยุโรปกับคาบสมุทรอานาโตเลียในทวีปเอเชีย เป็นช่องแคบหนึ่งของตุรกีคู่กับช่องแคบดาร์ดะเนลส์ทางตอนใต้ที่เชื่อมกับทะเลอีเจียน ช่องแคบบอสฟอรัสทางตอนเหนือและช่องแคบดาร์ดาเนลส์ทางตอนใต้เชื่อมระหว่างทะเลดำกับทะเลมาร์มะราซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของทะเลเมดิเตอร์เรเนียนช่องแคบบอสฟอรัสยาวราว 30 กิโลเมตร ส่วนที่กว้างที่สุดกว้าง 3,700 เมตร ส่วนที่แคบที่สุดกว้าง 700 เมตร ความลึกระหว่าง 36 ถึง 124 เมตร ฝั่งทะเลของช่องแคบเป็นเมืองอิสตันบูลที่มีประชากรหนาแน่นถึงราว 11 ล้านคน
จากนั้น ชมพระราชวังทอปกาปึ(Topkapi Palace) อันเป็นพระราชวังที่ประทับของสุลต่านมานานกว่า 3 ศตวรรษ สร้างโดย 'จักรพรรดิเมห์เม็ตผู้พิชิต'(MEHMET THE CONQUEROR)ในอดีตพระราชวังทอปกาปึเคยเป็นสถานที่ฝึกขุนนางทหารรับใช้ของสุลต่านชาวตุรกี ซึ่งคัดเลือกเด็ก ๆ คริสเตียน(พวกนอกศาสนา)มาสอนให้เป็นเติร์กและนับถือศาสนาอิสลาม ต่อมาเมื่อขุนทหารเหล่านี้ออกมา
รับราชการเป็นใหญ่เป็นโตในวังก็กลายเป็นหอกข้างแคร่ และในบางยุคก็ร่วมก่อการปฏิวัติรัฐประหารเลยด้วยซ้ำ ในที่สุดสุลต่าน 'มาห์มุทที่ 3' ก็ตัดสินใจยุบระบบขุนนางทหารรับใช้ซึ่งยืนยงมากว่า 350 ปีนี้ลง และปฏิรูประบบการจัดการทหารในประเทศเสียใหม่ โดยการนำการจัดทัพแบบยุโรปมาใช้ ปัจจุบันพระราชวังทอปกาปึกลายเป็นพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติที่ใช้เก็บมหาสมบัติอันล้ำค่าอาทิ เช่น เพชร 96 กะรัต กริชทองประดับมรกต เครื่องลายครามจากจีน หยก มรกต ทับทิม และเครื่องทรงของสุลต่าน
ชมอุโมงค์เก็บน้ำใต้ดินเยเรบาตัน(Basilica Cistern) เป็นอุโมงค์เก็บน้ำที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในนครอิสตันบูล สามารถเก็บน้ำได้มากถึง 88,000 ลูกบาศก์เมตร สร้างขึ้นตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ 6 กว้าง 70 เมตร ยาว 140 เมตร ลึก 8 เมตร ภายในอุโมงค์มีเสากรีกต้นสูงใหญ่ตั้งแต่ค้ำเรียงรายเป็นแถวถึง 336 ต้น ใช้เก็บน้ำเอาไว้อุปโภคบริโภคภายในวัง โดยลำเลียงน้ำมาจากทะเลดำ ปัจจุบันไม่ได้ใช้งานเเล้ว เป็นเพียงที่ท่องเที่ยวอย่างเดียวเท่านั้น
จากนั้น ชมจัตุรัสสุลต่าน อาห์เหม็ด(Sultanahmed Complex) หรือที่มีชื่อเรียกมาแต่โบราณว่า ฮิปโปโดรม (Hippodrome) ซึ่งย่านแห่งนี้แต่เดิมเป็นจุดศูนย์กลางของเมืองในยุคไบแซนไทน์และใช้เป็นลานกว้างสำหรับแข่งกีฬาขับรถม้า แต่ในปัจจุบันเหลือเพียงร่องรอยจากอดีตที่มีแค่ลานและเสาโบราณอีก 3 ต้น คือ เสาโอเบลิสก์แห่งกษัตริย์เธโอโดเชียส (Theodosius Obelisk) เป็นเสาทรงสี่เหลี่ยมฐานกว้างแล้วค่อย ๆ เรียวยาวขึ้นไปเป็นยอดแหลมส่วนเสาโบราณต้นที่ 2 เรียกกันทั่วไปว่า เสางู (Bronze Serpentine Column) เป็นเสาบรอนซ์ที่แกะลวดลายเป็นรูปงู 3 ตัวพันเกี่ยวกันไปมาได้รับการยอมรับว่าเป็นเสาแบบกรีกที่เก่าแก่ที่สุดที่มีเหลืออยู่ในอิสตันบูล และเสาต้นที่ 3 มีชื่อว่า เสาคอนสแตนติน (Column of Constantine) สร้างขึ้นในปี พ.ศ. 1483 แต่เดิมเป็นเสาบรอนซ์ แต่ในช่วงสงครามครูเสดได้ถูกศัตรหลอมเอาบรอนซ์ออกไปจนเหลือเพียงแค่เสาปูนเท่านั้น
กลางวัน äบริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
จากนั้น ชมสัญลักษณ์ของเมืองนครอิสตันบูล“บลูมอสก์” (Blue Mosque) สุเหร่าสีน้ำเงินสถานที่ที่ไม่ควรพลาดเมื่อเดินทางมาเยือนเมืองอิสตันบูล มีชื่อเรียกอีกอย่างหนึ่งว่าสุเหร่าสุลต่านอาห์เมตที่ 1 (Sultan ahmet I) เป็นสุเหร่าที่มีแรงบันดาลใจมาจากการสร้างที่ต้องการเอาชนะและต้องการให้มีขนาดใหญ่กว่าวิหารเซนต์โซเฟียในสมัยนั้น ซึ่งวิหารเซนต์โซเฟียได้รับการจัดอันดับเป็น 1 ใน 7 ของสิ่งมหัศจรรย์ของโลกในยุคกลาง สุเหร่าแห่งนี้ประดับด้วยกระเบื้องอัซนิค บนกำแพงชั้นในที่มีสีฟ้าสดใสลายดอกไม้ต่างๆเช่นกุหลาบ ทิวลิปคาเนชั่น ฯลฯ โดยหันหน้าเข้าวิหารเซนต์โซเฟียเพื่อประชันความงามกันคนละฝั่ง ถ้ามองจากด้านนอกวิหารจะมองเห็นหอสวดมนต์ 6หอ ซึ่งปกติมัสยิดจะมีหอสวดมนต์เพียง 1 หรือ 2 หอ แต่มัสยิดแห่งนี้มี หอมินาเร็ตทั้ง 6หอ ตกแต่งด้วยหน้าต่าง 260 บาน สลับด้วยกระจกสีอันน่าวิจิตร มีพื้นที่ให้ละหมาดกว้างขว้าง มีขนาดใหญ่ ภายในประกอบด้วย โรงเรียนสอนศาสนา โรงพยาบาล ที่พักสำหรับขบวนคาราวาน โรงครัวต้มน้ำ ปัจจุบันเปิดให้เข้าไปทำละหมาด 24 ชั่วโมง
นำท่านชม ฮายาโซฟีอา (Hagia Sophia) เดิมเคยเป็นโบสถ์ของคริสต์ศาสนา ต่อมาถูกเปลี่ยนเป็นสุเหร่า ปัจจุบันเป็นพิพิธภัณฑ์ ตั้งอยู่ที่นครอิสตันบูล ประเทศตุรกี ถือเป็นสิ่งก่อสร้างที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งและมักถูกจัดให้อยู่ในรายการสิ่งมหัศจรรย์ของโลกในยุคกลางฮายาโซฟีอาเคยเป็นโบสถ์ที่ใหญ่ที่สุดในโลกมานานเกือบพันปี จนกระทั่งอาสนวิหารเซบียาสร้างเสร็จในปี 1520สิ่งก่อสร้างที่ปรากฏอยู่ในปัจจุบันถูกสร้างให้เป็นโบสถ์ในระหว่างปี ค.ศ. 532-537 โดยจักรพรรดิจัสติเนียนแห่งจักรวรรดิไบแซนไทน์ และเป็นโบสถ์หลังที่สามถูกสร้างขึ้นในสถานที่เดียวกันนี้ (โบสถ์สองหลังแรกถูกทำลายในระหว่างการจลาจล) โบสถ์นี้เป็นศูนย์กลางของนิกายอีสเทิร์นออร์ทอดอกซ์เป็นเวลาเกือบ 1,000 ปีในปี 1453 หลังจากที่จักรวรรดิออตโตมันพิชิตจักรวรรดิไบแซนไทน์ สุลต่านเมห์เหม็ดที่ 2 จึงดัดแปลงโบสถ์ให้กลายเป็นสุเหร่า เช่นย้ายระฆัง แท่นบูชา รูปปั้นต่าง ๆ ออก และสร้างสัญลักษณ์ทางอิสลาม
เดินทางสู่ ตลาดในร่ม (Kapali Carsisi หรือ Covered Bazaar) หรือ แกรนด์บาซาร์ (Grand Bazaar) เป็นตลาดเก่าแก่ สร้างครั้งแรกในสมัยสุลต่านเมห์เม็ดที่ 2 เมื่อปี ค.ศ. 1461 ตลาดนี้กินเนื้อที่กว่า 2 แสนตารางเมตรประกอบด้วยร้านค้ากว่า 4,000 ร้าน
ค่ำ äบริการอาหารเย็น ณ ภัตตาคาร
ที่พัก PULMAN HOTEL ระดับ 5 ดาวตุรกี หรือเทียบเท่ามาตรฐานของประเทศตุรกี เมืองอิสตันบูล
(โรงแรมที่ระบุในรายการทัวร์เป็นเพียงโรงแรมที่นำเสนอเบื้องต้นเท่านั้น ซึ่งอาจมีการเปลี่ยนแปลงแต่โรงแรมที่เข้าพักจะเป็นโรงแรมระดับเทียบเท่ากัน)
วันที่สาม อิสตันบูล • อิซเมียร์ • Alacati • คุชาดาสึ ä (เช้า/กลางวัน/เย็น)
|
เช้า ä บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
จากนั้น นำท่านสู่ เมืองอิซเมียร์ เป็นเมืองขนาดใหญ่อันดับสามของประเทศตุรกี และยังเป็นเมืองเก่าแก่ที่ถูกลายล้อมไปด้วยหุบเขา ให้ความรู้สึกเหมือนอยู่บ้านพักตากอากาศเลยก็ว่าได้ (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 5 ชั่วโมง)
กลางวัน ä บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
จากนั้น นำท่านสู่ อลาคาติ (Alacati) เมืองชายฝั่งทะเล ตั้งอยู่บนแหลม Cesme ของทะเลอีเจียน บรรยากาศคล้ายๆกับซานโตรินี การตกแต่งของบ้านเรือน ร้านค้าจะใช้โทนสีพาสเทลให้ความน่ารักกุ๊กกิ๊ก มีร้านค้ามากมาย ไม่ว่าจะเป็นร้านอาหาร ร้านขนม ร้านขายของที่ระลึก และยังมีมุมถ่ายรูปเก๋ๆน่ารักๆให้ท่านได้ถ่ายรูปตามอัธยาศัยและเลือกช้อปปิ้งได้อย่างจุใจ
จากนั้น เดินทางสู่ เมืองคุชาดาสึ(Kusadasi) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง)
เย็น ä บริการอาหารเย็น ณ ห้องอาหารของโรงแรม
ที่พัก RAMADA HOTEL ระดับ 5 ดาวตุรกี หรือเทียบเท่ามาตรฐานของประเทศตุรกี เมืองคุชาดาสึ
(โรงแรมที่ระบุในรายการทัวร์เป็นเพียงโรงแรมที่นำเสนอเบื้องต้นเท่านั้น ซึ่งอาจมีการเปลี่ยนแปลงแต่โรงแรมที่เข้าพักจะเป็นโรงแรมระดับเทียบเท่ากัน)
วันที่สี่ เมืองคุซาดาสึ • เมืองโบราณเอฟฟิซุส • โรงงานผลิตเสื้อหนัง • บ้านพระแม่มารี • Turkish Delight • ปามุคคาเล่ ä (เช้า/กลางวัน/เย็น) |
เช้า ä บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
จากนั้น ชมเมืองโบราณเอฟฟิซุส (Ephesus) เมืองโบราณที่ได้มีการบำรุงรักษาไว้เป็นอย่างดีแห่งหนึ่งของโลก เมืองเอฟฟิซุสเป็นเมืองในยุคโบราณที่ยิ่งใหญ่ สวยงามสมกับการเป็น 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคโบราณเมืองโบราณเอฟฟิซุส รุ่งเรืองในยุคสมัยกรีก และโรมัน มีอายุกว่า 2,500 ปี เป็นที่อยู่อาศัยของชาวไอโอเนียน (Ionian) ที่อพยพมาจากกรีก ซึ่งรุ่งเรืองขึ้นมาในศตวรรษที่ 6 ก่อนคริสต์กาลแผนผังเมืองเอฟฟิซุสนั้นได้ชื่อว่าเป็นเลิศทางด้านยุทธศาตร์ทหาร และการค้า
นำท่านชมโรงงานผลิตเสื้อหนัง ที่มีคุณภาพและชื่อเสียงของตุรกี เสื้อแจ็กเก็ตและหนัง มีคุณภาพดี แบบทันสมัย มีน้ำหนักเบา ฟอกหนังดี นุ่มบางเบา สวมใส่สบายขึ้น ราคาถูกกว่าในยุโรปหรือสหรัฐอเมริกาครึ่งต่อครึ่ง เพราะตุรกีเป็นผู้ผลิตและส่งออกไปขายทั่วโลก
กลางวัน ä บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
จากนั้น นำท่านชม บ้านพระแม่มารี (House of Vergin Mary) เชื่อกันว่าเป็นที่สุดท้ายที่พระแม่มารีมา อาศัยอยู่และสิ้นพระชนม์ในบ้านหลังนี้ตั้งอยู่บนภูเขาสูงเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่คริสศาสนิกชนจะต้องหาโอกาสขึ้นไปนมัสการให้ได้สักครั้ง
ให้ท่านลิ้มลอง Turkish Delight ขนมประจำท้องถิ่นของประเทศตุรกี ซึ่งคนท้องถิ่นเรียกอีกอย่างว่า “โลคุม (Lokum)” มีรสชาติหวานทำจากแป้งและน้ำตาล มักจะเสิร์ฟคู่กับชาหรือกาแฟ สวนผสมก็จะมีหลากหลายไม่ว่าจะเป็นอัลมอนด์,ถั่ว,ถั่วพิสทาชิโอ,แมคคาเดเมีย,วอลนัท, กุหลาบ ฯลฯ
จากนั้น นำท่านเดินสู่ ปามุคคาเล่(Pamukkale) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 4 ชั่วโมง)
เย็น ä บริการอาหารเย็น ณ ห้องอาหารของโรงแรม
ที่พัก ADEN PIRA HOTEL ระดับ 5 ดาวตุรกีหรือเทียบเท่ามาตรฐานของประเทศตุรกี เมืองปามุคคาเล่
(โรงแรมที่ระบุในรายการทัวร์เป็นเพียงโรงแรมที่นำเสนอเบื้องต้นเท่านั้น ซึ่งอาจมีการเปลี่ยนแปลงแต่โรงแรมที่เข้าพักจะเป็นโรงแรมระดับเทียบเท่ากัน)
วันที่ห้า ปามุคคาเล่ • ปราสาทปุยฝ้าย • เฮียราโพลิส • คอนย่า • พิพิธภัณฑ์เมฟลาน่า ä (เช้า/กลางวัน/เย็น)
|
เช้า ä บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
จากนั้น นำชม ปามุคคาเล แปลว่า ปราสาทปุยฝ้าย (Cotton Castle) มีลักษณะเป็นระเบียงน้ำพุเกลือร้อน ซึ่งเกิดขึ้นจากการเกิดแผ่นดินไหวของโลกในอดีต ความงดงามสุดวิจิตรของสถานที่แห่งนี้เกิดขึ้นจากบ่อน้ำร้อนที่อุดมไปด้วยแคลเซียมคาร์บอเนต หรือหินปูน ซึ่งเมื่อน้ำพุร้อนระเหยขึ้นมาเป็นเวลาเนิ่นนาน ไอน้ำก็จะค่อย ๆ ก่อให้เกิดชั้นของแคลเซียมเกาะบริเวณขอบบ่อจนเกิดเป็นผนังสีขาวขึ้นนั่นเองด้วยความเชื่อว่า ปามุคคาเล เป็นเหมือนสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งมีสรรพคุณในการรักษาบำบัดการอาการต่าง ๆ ทำให้ในอดีตชนเผ่ากรีก-โรมันได้เข้ามาสร้างเมืองอยู่บนบ่อน้ำพุร้อนแห่งนี้ และขนานนามเมืองนั้นว่า ฮีเอราโพลิส อันหมายถึงเมืองศักดิ์สิทธิ์ และปามุคคาเล ก็ได้ถูกใช้เป็นสปาบำบัดโรคมานานกว่าพันปี
จากนั้น นำท่านสู่ เฮียราโพลิส (Hierapolis) ซึ่งมีความหมายว่า เมืองแห่งความศักดิ์สิทธิ์ สร้างขึ้นก่อนคริสตกาล มีอายุประมาณ 2,200 ปี จุดเด่นสำคัญของที่แห่งนี้คือ มีโรงละครขนาดใหญ่ ที่สามารถจุคนได้ถึง 12,000 คน อดีตงานเทศกาลหรือการแข่งขันต่างๆก็จะจัดที่โรงละครแห่งนี้ และรอบๆจะประกอบไปด้วย โรงอาบนน้ำโบราณ สระน้ำโบราณ ประตูเมือง ฯลฯ
กลางวัน ä บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
นำท่าน เดินทางสู่เมืองคอนย่า (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 5 ชั่วโมง) เมืองนี้เป็นเมืองสำคัญทางศาสนาอิสลามเป็นเมืองต้นกำเนิดศาสนาอิสลาม อีกลัทธิหนึ่งเรียกว่าลัทธิ Mevlevi หรือ ลัทธิลมหวน การปฏิบัติยอมรับนับถือเหมือนอิสลามทุกประการ
จากนั้น ชมพิพิธภัณฑ์เมฟลาน่า (Mevlana museum) หรือสำนักลมวน ก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ.1231 โดยเมฟลาน่า เจลาเลดดิน ซึ่งเชื่อกันว่าชายคนนี้เป็นผู้วิเศษของศาสนาอิสลาม พิพิธภัณฑ์เป็นสุสานของเมฟานา เจลาเลดดินภายนอกเป็นหอทรงกระบอกปลายแหลมสีเขียวสดใส ภายในตกแต่งประดับประดาฝาผนังแบบมุสลิม
เย็น ä บริการอาหารเย็น ณ ห้องอาหารของโรงแรม
ที่พัก NOVOTEL HOTELระดับ 5 ดาวตุรกี หรือเทียบเท่ามาตรฐานของประเทศตุรกี เมืองคอนย่า
(โรงแรมที่ระบุในรายการทัวร์เป็นเพียงโรงแรมที่นำเสนอเบื้องต้นเท่านั้น ซึ่งอาจมีการเปลี่ยนแปลงแต่โรงแรมที่เข้าพักจะเป็นโรงแรมระดับเทียบเท่ากัน)
วันที่หก เมืองคอนย่า • เมืองคัปปาโดเกีย • สถานีคาราวาน • นครใต้ดินคาดัค • โรงงานผลิตพรมทอมือ • โชว์ระบำหน้าทอง ä (เช้า/กลางวัน /เย็น) |
เช้า ä บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
เดินทางสู่ เมืองคัปปาโดเกีย(Cappadocia) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง) เป็นชื่อเก่าแก่ภาษาฮิตไตต์ แปลว่า“ดินแดนม้าพันธุ์ดี” ตั้งอยู่ทางตอนกลางของตุรกีเป็นพื้นที่พิเศษเกิดจากการระเบิดของภูเขาไฟเออซิเยส และภูเขาไฟ ฮาซาน เมื่อประมาณ 3 ล้านปีมาแล้ว (ปัจจุบันภูเขาไฟทั้ง 2 ดับแล้ว) ทำให้ลาวาที่พ่นออกมาและเถ้าถ่านจำนวนมหาศาลกระจายไปทั่วบริเวณทับถมเป็นแผ่นดินชั้นใหม่ขึ้นมา จากนั้นกระแสน้ำ ลม ฝน แดด และหิมะ ได้ร่วมด้วยช่วยกันกัดเซาะกร่อนกินแผ่นดินภูเขาไฟไปเรื่อยๆนับแสนนับล้านปี จนเกิดเป็นภูมิประเทศประหลาดแปลกตาน่าพิศวง ที่เต็มไปด้วยหินรูป แท่ง กรวย(คว่ำ) ปล่อง กระโจม โดม และอีกสารพัดรูปทรง จนผู้คนในพื้นที่เรียกขานกันว่า “ปล่องไฟนางฟ้า” ที่ในปี ค.ศ.1985 ยูเนสโกได้ประกาศให้พื้นที่มหัศจรรย์แห่งนี้เป็นมรดกโลกทางธรรมชาติและวัฒนธรรมแห่งแรกของตุรกี
ระหว่างทาง แวะถ่ายรูป สถานีคาราวาน (Caravanserai) มักจะเป็นสิ่งก่อสร้างที่มีอิทธิพลจากเปอร์เชียที่ก่อสร้างเป็นที่พักเล็กข้างทางที่นักเดินทางสามารถใช้สำหรับการพักผ่อนให้หายเหนื่อยจากการเดินทางสถานีคาราวานตั้งอยู่ได้จากการคมนาคมทางการค้าการติดต่อสื่อสารและการเดินทางของผู้คนในเครือข่ายของเส้นทางการค้า (trade routes) ที่ครอบคลุมเอเชีย, แอฟริกาเหนือ และ ยุโรปตะวันออกเฉียงใต้ สถานีคาราวานอาจจะเป็นที่รู้จักในภาษาไทยด้วยชื่อเรียกว่า "โรงเตี๊ยม"
กลางวัน ä บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
จากนั้น นำท่าน ชมนครใต้ดินคาดัค (CardakUnderground City) เกิดจากการขุดเจาะพื้นดินลึกลงไป 10 กว่าชั้น เพื่อใช้เป็นที่หลบภัยจากข้าศึกศัตรู ในยามสงคราม ของชาวคัปปาโดเกียในอดีต โดยทั้งจากชาวอาหรับจากทางตะวันออกที่ต้องการเข้ามายึดครองดินแดนนี้เพื่อหวังผลประโยชน์ทางการค้าและชาวโรมันจากทางตะวันตกด้วยเหตุผลเดียวกัน รวมทั้งต้องการที่จะหยุดยั้งการเผยแพร่ศาสนาคริสต์ในดินแดนแถบนี้ด้วยเมืองใต้ดินแห่งนี้มีครบเครื่องทุกอย่างทั้งห้องโถง ห้องนอน ห้องน้ำ ห้องถนอมอาหาร ห้องครัว ห้องอาหาร โบสถ์ ทางหนีฉุกเฉิน ฯลฯ แม้จะเป็นเมืองขนาดใหญ่ขุดลึกลงไปใต้ดินหลายชั้น แต่ว่าอากาศในนั้นถ่ายเทเย็นสบาย หน้าร้อนอากาศเย็น หน้าหนาวอากาศอบอุ่น มีอุณหภูมิเฉลี่ย 17-18 องศาเซลเซียส และด้วยการออกแบบที่ดี มีทางออกฉุกเฉินที่เป็นทางระบายอากาศไปในตัว ทำให้อากาศถ่ายเท
จากนั้น นำชม ชมโรงงานผลิต พรมทอมือ หัตถกรรมของชาวตุรกีที่มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลก มีคุณภาพดี ลวดลายสวยงาม และมีราคาแพง หาซื้อได้ทั่วไป ลวดลายแตกต่างกันออกไปตามแหล่งที่ผลิต แต่ละท้องถิ่นจะมีสินค้าขึ้นชื่อของตนเองโดยเฉพาะ พรมที่มีราคาแพงจะทอด้วยขนสัตว์ มีชื่อเสียงมากที่สุดต้องเป็นของเมืองเฮเรเค (Hereke)พรมมี 2 แบบ ตามลักษณะความยาวของเส้นใบที่ใช้ทอคือ ฮาลี (Hali) เป็นพรมทั่วไป ที่นิยมขายกันอย่างแพร่หลาย ทำจากวัสดุ ทั้งขนสัตว์ ฝ้าย ไหม ระหว่างการทอเมื่อผูกปมแล้วจะตัดเส้นใยออก จะเหลือเพียงด้านเดียวที่มีขนปุยฟูขึ้นมา เป็นลวดลายตามที่ต้องการ อีกแบบคือ "คาลิม" (Kilim) ทอจากขนสัตว์ ฝ้าย และไหม ราคาถูกกว่าฮาลี ชนิดที่มีชื่อเสียงจะมาจากเมืองเฮเรเค
เย็น ä รับประทานอาหารเย็น ณ ห้องอาหารโรงแรม
จากนั้น นำท่านชมการแสดงพื้นเมือง “โชว์ระบำหน้าท้อง” Belly Dance เป็นการเต้นรำที่เก่าแก่อย่างหนึ่ง เกิดขึ้นมาเมื่อประมาณ 6000 ปีในดินแดนแถบอียิปต์และเมดิเตอร์เรเนียน นักประวัติศาสตร์เชื่อกันว่า ชนเผ่ายิปซีเร่ร่อนคือคนกลุ่มสำคัญที่ได้อนุรักษ์ระบำหน้าท้องให้มีมาจนถึงปัจจุบัน และการเดินทางของชาวยิปซีทำให้ระบำหน้าท้องแพร่หลาย มีการพัฒนาจนกลายเป็นศิลปะที่โดดเด่น สวยงาม จนกลายมาเป็นระบำหน้าท้องตุรกีในปัจจุบัน
ที่พัก พักโรงแรมตกแต่งสไตล์ถ้ำ 1 คืน MINIA CAVE HOTEL หรือเทียบเท่า ตามมาตรฐานตุรกี
เมืองคัปปาโดเกีย
**ในกรณีโรงแรมสไตล์ถ้ำเต็ม ทางบริษัทฯขอสงวนสิทธิ์ใช้โรงแรมเทียบเท่าระดับเดียวกันแทน**
วันที่เจ็ด เมืองคัปปาโดเกีย • พิพิธภัณฑ์กลางแจ้งเกอเรเม • ร้านจิวเวอร์รี่และเซรามิค • ชมหุบเขาแบบพาโนรามิค • สุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ ä (เช้า/กลางวัน /เย็น)
|
05.00 น. นำท่านเดินทางไปสัมผัสบรรยากาศ เมืองคัปปาโดเกียยามเช้า โดยการขึ้นบอลลูน โดยท่านจะเห็นวิวทั่วเมืองคัปปาโดเกีย โดยจะนั่งบอลลูนใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง ค่าบอลลูนไม่ได้รวมอยู่ในรายการ อัตราค่าบริการท่านละ 250 USD โดยประมาณ โดยสอบถามราคากับทางหัวหน้าทัวร์อีกทีในวันที่จะเดินทาง
เช้า äบริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
จากนั้น ชมพิพิธภัณฑ์กลางแจ้งเกอเรเม (GOREME OPEN MUSEUM) เป็นสถานที่ที่มีความงดงามและเต็มไปด้วยคุณค่าทางประวัติศาสตร์ ได้รับขึ้นทะเบียนจากองค์การยูเนสโกให้เป็นมรดกโลกในปี1984 สร้างโดยชาวคริสต์ที่หลบหนีการเข่นฆ่าคนต่างศาสนาของทหารออตโตมัน และสร้างโบสถ์ไว้มากกว่า 30 แห่ง จนกลายเป็นศูนย์กลางสำนักสงฆ์เมื่อราวปี 300-1200 ภายในมีภาพวาดเฟรสโกบนผนังและเพดานภายในถ้ำที่ถูกวาดไว้ตั้งแต่ศตวรรษที่ 9 ช่างงดงามตราตรึงใจแก่ผู้มาเยือน
เที่ยง ä บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร แวะชิม TURKISH ICE CREAM MADO
จากนั้น ชมโรงงานเซรามิคและโรงงานจิวเวอรี่ อิสระเชิญท่านเลือกชมสินค้าตามอัธยาศัย
จากนั้น นำท่านแวะถ่ายรูป ชมหุบเขาแบบพาโนรามิค มีทั้ง ปราสาทอุชิซาร์ (Uchisar Castle) ได้รับการตั้งชื่อตามก้อนหินใหญ่ในบริเวณศูนย์กลางของเมือง ซึ่งได้เคยถูกใช้เป็นปราสาทหินพิเศษก้อนนี้เป็นจุดสูงสุดของพื้นที่ ท่านสามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ของคัปปาโดเกียอันสวยงามได้บนนี้ ต่อด้วยชม Pasabagi Valley หรือ Monk Valley สถานที่ที่ดีที่สุดสำหรับการชมปล่องไฟสามเศียรที่ถูกโอบล้อมไปด้วยหินธรรมชาติ จุดชมวิว Devrent valley เป็นวิวที่ดีที่สุดของคัปปาโดเกียซึ่งสามารถมองเห็น ปล่องไฟ นางฟ้าชนิดต่าง ๆ ได้เช่น รูปเห็ด และสัตว์ต่าง ๆ
เย็น ä รับประทานอาหารเย็น ณ ภัตตาคาร
นำท่านเดินทางสู่ สนามบินเนฟเซไฮร์ (NEVSEHIR KAPADOKYA AIRPORT)
20.50 น. ออกเดินทางสู่ สนามบินอิสตันบูล โดยเที่ยวบินที่ TK 2009
22.15 น. ถึงสนามบิน อิสตันบูล ISTANBUL INTERNATIONAL AIRPORT
หลังจากนั้น ให้ท่านได้พักผ่อนระหว่างรอเปลี่ยนเครื่องโดยมีร้านค้าปลอดภาษี แบรนด์สินค้าชั้นนำ เช่น HERMES, LOUIS VUITTON, GUCCI, PRADA และยังมีร้านอาหารต่างๆอีกมากมาย
วันที่แปด สนามบินอิสตันบูล • สุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ |
01.45 น. ออกเดินทางกลับกรุงเทพฯ โดยสายการบินสายการบินเตอร์กิชแอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ TK68
15.25 น. เดินทางถึงกรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพพร้อมความประทับใจมิรู้ลืม
เงื่อนไขทัวร์ตุรกี
อัตราค่าบริการรวม
- ตั๋วเครื่องบินไป -กลับพร้อมกรุ๊ป กรุงเทพฯ-อิสตันบูล-เนฟไซ-อิสตันบูล-กรุงเทพฯ สายการบิน Turkish Airline (TK) เป็นตั๋วหมู่คณะไม่สามารถสะสมไมล์ได้
- ที่พักโรงแรมตามรายการ 5 คืน พักห้องละ 2-3 ท่าน (กรณีมาไม่ครบคู่และไม่ต้องการเพิ่มเงินพักห้องเดี่ยว)
- ค่าระวางน้ำหนักกระเป๋าไม่เกิน 20 กก.ต่อ 1 ใบ(โหลดได้ท่านละ 1 ใบ)กระเป๋าถือขึ้นเครื่อง Hand Carry 7 กก.ต่อ 1 ใบ
- ค่าอาหารทุกมื้อตามรายการระบุ (สงวนสิทธิ์ในการสลับมื้อหรือเปลี่ยนแปลงเมนูอาหารตามสถานการณ์)
- น้ำดื่มบริการบนรถวันละ 1 ขวด/ท่าน
- ค่าเข้าชมสถานที่ตามรายการระบุ
- ค่ารถโค้ชรับ-ส่งสถานที่ท่องเที่ยวตามรายการระบุ
- ค่ามัคคุเทศก์ท้องถิ่นและหัวหน้าทัวร์นำเที่ยวคนไทย
- ภาษีมูลค่าเพิ่ม 7%
- ภาษีน้ำมันและภาษีตั๋วทุกชนิด (สงวนสิทธิ์เก็บเพิ่มหากสายการบินปรับขึ้นก่อนวันเดินทาง)
- ประกันโควิด-19 วงเงินคุ้มครองค่ารักษาพยาบาล 50,000 USD
- ประกันอุบัติเหตุวงเงิน 2,000,000 บาท (เป็นไปเงื่อนไขตามกรมธรรม์)
อัตราค่าบริการไม่รวม
- ค่าทำหนังสือเดินทางไทย และค่าธรรมเนียมสำหรับผู้ถือพาสปอร์ตต่างชาติ
- ค่าน้ำหนักกระเป๋าเดินทางในกรณีที่เกินกว่าสายการบินกำหนด 20 กิโลกรัมต่อท่าน
- ค่าใช้จ่ายส่วนตัว อาทิ อาหารและเครื่องดื่มที่สั่งเพิ่มพิเศษ,โทรศัพท์-โทรสาร,อินเตอร์เน็ต,มินิบาร์,ซักรีด ที่ไม่ได้ระบุไว้ในรายการ
- ค่าบริการอื่นๆเพิ่มของสายการบิน เช่น ที่นั่ง วีลแชร์ รวมถึง บริการเสริมอื่นๆ (ถ้ามี)
- ค่าใช้จ่ายอันเกิดจากความล่าช้าของสายการบิน,อุบัติภัยทางธรรมชาติ,การประท้วง,การจลาจล,การนัดหยุดงาน,การถูกปฏิเสธไม่ให้ออกและเข้าเมืองจากเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองและเจ้าหน้าที่กรมแรงงานทั้งที่เมืองไทยและต่างประเทศซึ่งอยู่นอกเหนือความควบคุมของบริษัทฯ
- หากหน่วยงานรัฐบาลไทย และ/หรือ ตุรกีมีการปรับเปลี่ยนข้อกำหนดเกี่ยวกับการกักตัวเพิ่มเติม และ/หรือ ขอเรียกตรวจโรคเพิ่มเติม ทางผู้เดินทางจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายส่วนเกินด้วยตนเอง
- ค่าทิปไกด์ท้องถิ่น,พนักงานขับรถ รวมทั้งทริป 80 USD/ท่าน
- ค่าทิปหัวหน้าทัวร์ตามสินน้ำใจของทุกท่านค่ะ (ไม่รวมในทิปไกด์ท้องถิ่นและคนขับรถนะคะแต่ไม่บังคับทิปค่ะ)
- ค่าตรวจ RT-PCR ก่อนเดินทาง72 ชั่วโมง(ใบรับรองแพทย์ภาษาอังกฤษ) ก่อนเดินทางออกจากประเทศไทย
- ค่าตรวจ RT-PCR ก่อนเดินทางกลับประเทศไทย สำหรับผู้ที่ได้รับวัคซีนไม่ครบโดส (1 เข็ม) หรือ ยังไม่ได้รับวัคซีน
- ค่าใช้จ่ายอื่นๆที่ไม่ได้ระบุไว้ในอัตราค่าบริการรวม