เลื่อนขึ้น
ทัวร์ถูก ทัวร์เกาหลี ทัวร์ญี่ปุ่น ทัวร์ต่างประเทศ ทัวร์ดี ทัวร์ราคาประหยัด ทัวร์ทั่วโลก ทัวร์ราคาถูก ทัวร์ราคาประหยัด ทัวร์บริการดี ทัวร์บริการประทับใจ ทัวร์ดีมีคุณภาพ
  
 
ประเทศ:
ทัวร์ตุรกี ทัวร์ตุรกี
เข้าชม:
80
รหัสทัวร์:
GS-TR01
สายการบิน:
Turkish Airlines
ทัวร์ตุรกี

ทัวร์ตุรกี TURKEY AMAZING LAVENDER TK | 8D5N
ราคาเริ่มต้น 35,999.-

ทัวร์ตุรกีDAY 2 อิสตันบูล – บูร์ซ่าร์ – สุเหร่าสีเขียว – ตลาดผ้าไหม –คูซาดาซี – บ้านพระแม่มารี ร้านเครื่องหนัง – เมืองโบราณเอฟฟิซุส – ปามุคคาเล่ – โรงงานสิ่งทอ – ปราสาทปุยฝ้าย – เมืองโบราณเฮียราโพ เมืองอิสปาร์ตา – สวนลาเวนเดอร์ – คัปปาโดเกีย – ระบำBELLY DANCE นครใต้ดิน – พิพิธภัณฑ์เกอราม่า – โรงงานพรม / เซรามิค / เครื่องประดับ – หุบเขาอุซิซาร์ – ทะเลสาบเกลือ – เมืองอังการา สุสานมุสตาฟา เคมาล อตาเติร์ก – อิสตันบูล – ล่องเรือชมช่องแคบบอสฟอรัส – ตลาดสไปซ์
ทัวร์ตุรกี ทัวร์ตุรกี

สถานที่ท่องเที่ยวทัวร์ตุรกี

วันที่ 1  กรุงเทพฯ (สุวรรณภูมิ) (มีอาหารและเครื่องดื่มบริการบนเครื่องบิน)
วันที่ 2  DAY 2 อิสตันบูล – บูร์ซ่าร์ – สุเหร่าสีเขียว – ตลาดผ้าไหม –คูซาดาซี – บ้านพระแม่มารี
วันที่ 3  ร้านเครื่องหนัง – เมืองโบราณเอฟฟิซุส – ปามุคคาเล่ – โรงงานสิ่งทอ – ปราสาทปุยฝ้าย – เมืองโบราณเฮียราโพ
วันที่ 4  เมืองอิสปาร์ตา – สวนลาเวนเดอร์ – คัปปาโดเกีย – ระบำBELLY DANCE
วันที่ 5  นครใต้ดิน – พิพิธภัณฑ์เกอราม่า – โรงงานพรม / เซรามิค / เครื่องประดับ – หุบเขาอุซิซาร์ – ทะเลสาบเกลือ – เมืองอังการา
วันที่ 6  สุสานมุสตาฟา เคมาล อตาเติร์ก – อิสตันบูล – ล่องเรือชมช่องแคบบอสฟอรัส – ตลาดสไปซ์

อัตราการให้บริการ
กำหนดการเดินทาง รายละเอียดไฟล์ทบิน และ เวลาบิน ผู้ใหญ่ ห้องละ
2-3 ท่าน
ท่านละ
1 เด็ก 2 ผู้ใหญ่
เด็กมีเตียง

(ไม่เกิน 12 ปี)
ท่านละ
1 เด็ก 2 ผู้ใหญ่
เด็กไม่มีเตียง
(ไม่เกิน 12 ปี)
ท่านละ
พักเดี่ยว
เพิ่ม
อัตรา ท่านละ
07 – 14 กรกฎาคม 65 TK069 BKKIST 23.00-05.10
TK068 ISTBKK 01.55-15.25
35,999 35,999 35,999 7,000
09 – 16 กรกฎาคม 65 TK069 BKKIST 23.00-05.10
TK068 ISTBKK 01.55-15.25
35,999 35,999 35,999 7,000
13 – 20 กรกฎาคม 65 TK069 BKKIST 23.00-05.10
TK068 ISTBKK 01.55-15.25
35,999 35,999 35,999 7,000
ในกรณีที่ Join land (ไม่ใช้ตั๋วเครื่องบิน) ราคาท่านละ 18,000 บาท

ทัวร์ตุรกี ทัวร์ตุรกี

โปรแกรมการเดินทางทัวร์ตุรกี

กรุงเทพฯ (สุวรรณภูมิ)                    (มีอาหารและเครื่องดื่มบริการบนเครื่องบิน)
20.00        คณะพร้อมกัน ณ ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ  ชั้น 4 เคาน์เตอร์เช็คอิน ROW U ประตู 9 สายการบิน TURKISH AIRLINE โดยมีเจ้าหน้าที่ของบริษัทฯ คอยให้การต้อนรับ อำนวยความสะดวกตลอดขั้นตอนการเช็คอิน และ หัวหน้าทัวร์ให้คำแนะนำเพื่อเตรียมความพร้อมก่อนออกเดินทาง
23.00        ออกเดินทางสู่ ท่าอากาศยานนานาชาติ กรุงอิสตันบูล ประเทศตุรกี โดยสายการบิน TURKISH AIRLINE เที่ยวบินที่ TK 069  ** มีบริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่องบิน ใช้เวลาบินโดยประมาณ 10 ชั่วโมง **
 

DAY 2     อิสตันบูล – บูร์ซ่าร์ – สุเหร่าสีเขียว – ตลาดผ้าไหม –คูซาดาซี – บ้านพระแม่มารี              
                                                                                                                                      (–/L/D)   
05.10          เดินทางถึง ท่าอากาศยานนานาชาติ อิสตันบูล เมืองอิสตันบูล ประเทศตุรกี
นำท่านเดินทางสู่ เมืองบูร์ซ่าร์ (BURSA) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2.30 ชั่วโมง)เป็นเมืองทางตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศตุรกี ห่างจากชายฝั่งทะเลมาร์มะราไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ 21 กม. เป็นเมืองที่มีประชากรมากเป็นอันดับ 4 ของประเทศ เจริญรุ่งเรืองมากในสมัยจักรวรรดิโรมันและจักรวรรดิไบแซนไทน์ เป็นเมืองหลวงของจักรวรรดิออตโตมันระหว่างปี ค.ศ. 1326 ถึง 1365
                นำท่านชมความงามของ มัสยิดเก่าแก่ของเมืองบูร์ซ่า (GRAND MOSQUE) หรือสุเหร่าสีเขียวภายในจะพบกับผลงานอันละเอียดอ่อน และประณีตของงานกระเบื้องประดับที่มีสีสันลวดรายที่ละเอียด และซับซ้อนอย่างพิสดาร ทั้งลายรูปวงกลม รูปดาว ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของศาสนาอิสลาม และรูปเรขาคณิต ให้ท่านได้ชมความสวยงามของตัวเมืองที่ในอดีตกษัตริย์ที่เคยปกครองอาณาจักรออตโตมาน ได้ใช้เมืองนี้เป็นที่ฝังศพ และนอกจากนั้นยังถูกตกแต่งให้เป็นสวนที่สวยงามร่มรื่นไปด้วยต้นไม้ที่เขียวชอุ่มเป็นจำนวนมาก จนได้ชื่อว่าเป็นเมืองที่มีสีเขียว GREEN BURSA สุสานสีเขียว GREEN TOMB สุเหร่าสีเขียว หรือ YESIL MOSQUE สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ทางศาสนา ที่มีความสวยงามอีกแห่งหนึ่งของเมืองเบอร์ซา ถูกสร้างขึ้นในช่วงปี ค.ศ. 1491 - 1421 โดยสถาปนิก ชื่อ HACI IVAZ PASA โดยใช้รูปแบบสถาปัตยกรรมแบบเบอร์ซา อาคารสุเหร่ามีความโดดเด่นด้วยการใช้กระเบื้องหินอ่อนสีฟ้าเขียวในการตกแต่ง ผนังและเพดานด้านในก็ถูกตกแต่งด้วยกระเบื้องโมเสคสีฟ้าเขียวเช่นเดียวกัน นอกจากนี้ภายในสุเหร่าแห่งนี้ยังมีที่บรรจุศพของสุลต่านเมห์เมดที่ 1 และครอบครัว สถานที่แห่งนี้จึงถือได้ว่าเป็นสถาปัตยกรรมที่ทรงคุณค่าของประเทศตุรกี

เที่ยง           บริการอาหาร ณ ภัตตาคาร
นำท่านเดินทางสู่ เมืองคูซาดาซี (KUSADASI) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 4.30 ชั่วโมง) เมืองท่าเลียบชายฝั่งทะเลของประเทศตุรกี ในอดีตเมืองนี้เป็นเหมือนท่าเรือขนส่งสินค้า เป็นเมืองที่มีชื่อเสียงเรื่องการผลิตเครื่องหนังคุณภาพสูงส่งออกทั่วโลก
จากนั้นนำท่านเข้าชม บ้านพระแม่มารี (HOUSE OF VIRGIN MARY) ชื่อกันว่าเป็นที่สุดท้ายที่พระแม่มารีมาอาศัยอยู่และสิ้นพระชนม์ในบ้านหลังนี้ตั้งอยู่บนภูเขาสูงเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่คริสต์ศาสนิกชนจะต้องหาโอกาสขึ้นไปนมัสการให้ได้สักครั้งในชีวิต
ค่ำ               บริการอาหาร ณ โรงแรมที่พัก
พักที่           CARINA HOTEL , KUSADASI โรงแรมระดับ 4 ดาว หรือเทียบเท่า 
 

DAY 3     ร้านเครื่องหนัง – เมืองโบราณเอฟฟิซุส – ปามุคคาเล่ – โรงงานสิ่งทอ – ปราสาทปุยฝ้าย – เมืองโบราณเฮียราโพลิส                                                (B/L/D)                                                   
เช้า           บริการอาหาร ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านเดินทางสู่ โรงงานผลิตเครื่องหนัง (LEATHER FACTORY) ซึ่งประเทศตุรกีเป็นประเทศที่มีฐานการผลิตเครื่องหนังคุณภาพสูงที่สุดอันดับต้นๆของโลก ทั้งยังผลิตเสื้อหนังให้กับแบรนด์ดังในอิตาลี เช่น VERSACE , PRADA , MICHAEL KORS อีกด้วย
                นำท่านเดินทางสู่ เมืองโบราณเอฟฟิซุส (EPHESUS) เมืองโบราณที่มีการบำรุงรักษาไว้เป็นอย่างดีเมืองหนึ่ง เคยเป็นที่อยู่ของชาวโยนก (LONIA) จากกรีกซึ่งอพยพเข้ามาปักหลักสร้างเมืองซึ่งรุ่งเรืองขึ้นในศตวรรษที่ 6 ก่อนคริสต์กาล ต่อมาถูกรุกรานเข้ายึดครองโดยพวกเปอร์เซียและกษัตริย์อเล็กซานเดอร์มหาราช ภายหลังเมื่อโรมันเข้าครอบครองก็ได้สถาปนาเอฟฟิซุสขึ้นเป็นเมืองหลวงต่างจังหวัดของโรมัน นำท่านเดินบนถนนหินอ่อนผ่านใจกลางเมืองเก่าที่สองข้างทางเต็มไปด้วยซากสิ่งก่อสร้างเมื่อสมัย 2,000 ปีที่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นโรงละครกลางแจ้งที่สามารถจุผู้ชมได้กว่า 30,000 คน ซึ่งยังคงใช้งานได้จนถึงปัจจุบันนี้ นำท่านชม ห้องอาบน้ำแบบโรมันโบราณ (ROMAN BATH) ที่ยังคงเหลือร่องรอยของห้องอบไอน้ำ ให้เห็นอยู่จนถึงทุกวันนี้ หอสมุดเซลซุส (LIBRARY OF CELSUS) มีความสวยงามเป็นเลิศและมีขนาดใหญ่มาก สร้างโดยติเบริอุส จูลิอุส อาควิลา อุทิศให้กับบิดา ชื่อ ติเบริอุส จูลิอุส เซลซุส ในปี657-660และได้ฝังโลงศพของบิดาที่ทำจากหินเอาไว้ใต้หอสมุดแห่งนี้

เที่ยง         บริการอาหาร ณ ภัตตาคาร
นำท่านเดินทางสู่ เมืองปามุคคาเล่ (PAMUKKALE) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมง) เมืองที่มีน้ำพุเกลือแร่ร้อนไหลทะลุขึ้นมาจากใต้ดินผ่านซากปรักหักพังของเมืองเก่าแก่สมัยกรีกก่อนที่ไหลลงสู่หน้าผา จนเกิดผลึกขึ้นกึ่งสถาปัตยกรรม
แวะชมโรงงานสิ่งทอ ที่เป็นสินค้าขึ้นชื่อของเมืองตุรกี ให้ท่านได้เลือกซื้อสินค้าคุณภาพดีจากโรงานผู้ผลิต
นำท่านเดินทางสู่ ปราสาทปุยฝ้าย (COTTON CASTLE) ผลจากการไหลของน้ำพุเกลือแร่ร้อนนี้ได้ก่อให้เกิดทัศนียภาพของน้ำตกสีขาวเป็นชั้นๆหลายชั้นและผลจากการแข็งตัวของแคลเซียมทำให้เกิดเป็นแก่งหินสีขาวราวหิมะขวางทางน้ำเป็นทางยาว ซึ่งมีความงดงามมาก บริเวณเดียวกันจะเป็น เมืองโบราณเฮียราโพลิส (HIERAPOLIS) เป็นเมืองโรมันโบราณที่สร้างล้อมรอบบริเวณที่เป็นน้ำพุเกลือแร่ร้อน ซึ่งเชื่อกันว่ามีสรรพคุณในการรักษาโรค เมื่อเวลาผ่านไปภัยธรรมชาติได้ทำให้เมืองนี้เกิดการพังทลายลง เหลือเพียงซากปรักหักพังกระจายอยู่ทั่วไป บางส่วนยังพอมองออกว่าเดิมเคยเป็นอะไร เช่น โรงละคร แอมฟิเธียร์เตอร์ขนาดใหญ่ วิหารอพอลโล สุสานโรมันโบราณ เป็นต้น

ค่ำ             บริการอาหารค่ำ ณ โรงแรมที่พัก
พักที่          TRIPOLIS HOTEL , CANAKKALE โรงแรมระดับ 4 ดาว หรือเทียบเท่า 
 

DAY 4    เมืองอิสปาร์ตา – สวนลาเวนเดอร์ – คัปปาโดเกีย – ระบำBELLY DANCE  (B/L/D)                     
เช้า           บริการอาหาร ณ ห้องอาหารของโรงแรม
                นำท่านเดินทางสู่ เมืองอิสปาร์ตา (ISPARTA) เป็นที่รู้จักกันในนาม “เมืองแห่งดอกกุหลาบ” เนื่องจากเมืองแห่งนี้ปลูกดอกกุหลาบส่งออกให้กับประเทศฝรั่งเศส เพื่อผลิตน้ำหอม นำท่านเดินทางสู่ หมู่บ้านคูยูชัก (Kuyucak Village) เป็นหมู่บ้านเล็กๆ แต่ห้อมล้อมไปด้วยสีม่วงสวยงามของดอกลาเวนเดอร์
                นำท่านเที่ยวชม ทุ่งดอกลาเวนเดอร์ (LAVENDER FARM) พร้อมบานสะพรั่งสวยงามเต็มที่ในช่วงปลายเดือนมิถุนายน ถึงต้นเดือนสิงหาคม (ทั้งนี้ขึ้นอยู่ตามสภาพอากาศ) ซึ่งบริเวณเมืองนี้ เป็นพื้นที่ลุ่มสลับกับภูเขารายล้อม จึงมีพื้นที่ในการปลูกดอกไม้ ผลไม้ตามฤดูกาลอย่างมากมาย ให้ท่านได้อิสระได้เก็บภาพบรรยากาศสวยงามภายในทุ่งดอกลาเวนเดอร์ตามอัธยาศัย

นำท่านเดินทางสู่ เมืองคอนย่า (KONYA) ซึ่งเคยเป็นเมืองหลวงของอาณาจักรเซลจุก ระยะทาง 400 กิโลเมตร ระหว่างทางแวะชม ที่พักของกองคาราวานในสมัยโบราณ (CARAVANSARAI) เป็นสถานที่พักแรมของกองคาราวานตามเส้นทางสายไหมและชาวเติร์กสมัยออตโตมัน
เที่ยง           บริการอาหาร ณ ภัตตาคาร
ท่านเดินทางสู่ เมืองคัปปาโดเกีย (CAPPADOCIA) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 4 ชั่วโมง) เป็นบริเวณที่อยู่ระหว่าง ทะเลดำ กับ ภูเขาเทารุส มีความสำคัญมาแต่โบราณกาล เพราะเป็นส่วนหนึ่งของเส้นทางสายไหม เส้นทางค้าขายแลกเปลี่ยนวัฒนธรรม ที่ทอดยาวจากตุรกีไปจนถึงประเทศจีน เป็นพื้นที่พิเศษ ที่เกิดจากการระเบิดของภูเขาไฟเมื่อประมาณ 3 ล้านปีมาแล้ว ทำให้ลาวาที่พ่นออกมา และเถ้าถ่านจำนวนมหาศาล กระจายไปทั่วบริเวณทับถมเป็นแผ่นดินชั้นใหม่ขึ้นมาจากนั้นกระแสน้ำ ลม ฝน แดด และหิมะ ได้ร่วมด้วยช่วยกัน กัดเซาะกร่อนกินแผ่นดินภูเขาไฟไปเรื่อยๆ นับแสนนับล้านปี จนเกิดเป็นภูมิประเทศประหลาดแปลกตาน่าพิศวง ที่เต็มไปด้วยหินรูปแท่งกรวย (คว่ำ) ปล่อง กระโจม โดม และอีกสารพัดรูปทรง ดูประหนึ่งดินแดนในเทพนิยาย จนชนพื้นเมืองเรียกขานกันว่า “ปล่องไฟนางฟ้า” (FAIRY CHIMNEY) โดยชื่อ คัปปาโดเกีย (CAPPADOCIA) เป็นชื่อเก่าแก่ภาษาฮิตไตต์ (ชนเผ่ารุ่นแรกๆ ที่อาศัยอยู่ในดินแดนแถบนี้) แปลว่า “ดินแดนม้าพันธุ์ดี” และในปัจจุบันนี้ก็ยังเลี้ยงม้ากันอยู่บริเวณนี้ อีกทั้ง ยังมีเมืองใต้ดินที่ซ่อนอยู่ใต้เมืองคัปปาโดเกีย ถือเป็นเมืองใต้ดินโบราณที่ใหญ่ที่สุดในโลกก็ว่าได้ เพราะที่เมืองใต้ดินแห่งนี้ขุดลึกลงไปถึง 10 ชั้น ประมาณ 90 เมตร และภายในเมืองใต้ดินยังแบ่งซอยเป็นห้องย่อย เฉพาะที่เมืองคัปปาโดเกียมีเมืองใต้ดินมากถึง 15 แห่งและถ้ารวมทั้งเมืองอื่นๆ ด้วยก็เกือบๆ 200 แห่งเลยทีเดียว และยังมีการขุดเชื่อมกันระหว่างแต่ละเมืองอีกด้วย  ซึ่งภายในเมืองใต้ดินมีครบทุกอย่างไม่ว่าจะเป็น ห้องนอน ห้องน้ำ ห้องอาหาร ห้องประชุม คอกสัตว์ โบสถ์  บ่อน้ำ บางห้องเป็นห้องโถงกว้างว่ากันว่าสามารถจุคนได้มากกว่า 30,000 คน เลยทีเดียว ด้วยความอัศจรรย์ใต้พิภพแห่งนี้ ทางองค์กรยูเนสโกได้ขึ้นทะเบียนเมืองใต้ดินแห่งเมืองคัปปาโดเจีย เป็นสถานที่มรดกโลกอีกด้วย และบุตรของเมฟลาน่าด้วย
ค่ำ              บริการอาหาร ณ ภัตตาคาร พิเศษ พร้อม ชมการแสดงโชว์ระบำหน้าท้อง (BELLY DANCE) ซึ่งเป็นการเต้นรำที่เก่าแก่อย่างหนึ่ง เกิดขึ้นมาเมื่อประมาณ 6,000 ปี ในดินแดนแถบอียิปต์และเมดิเตอร์เรเนียน นักประวัติศาสตร์เชื่อกันว่า ชนเผ่ายิปซีเร่ร่อนคือคนกลุ่มสำคัญที่ได้อนุรักษ์ระบำหน้าท้องให้มีมาจนถึงปัจจุบัน และการเดินทางของชาวยิปซีทำให้ระบำหน้าท้องแพร่หลาย มีการพัฒนาจนกลายเป็นศิลปะที่โดดเด่น สวยงาม จนกลายมาเป็นระบำหน้าท้องตุรกีในปัจจุบัน (การแสดงอาจจะมีการยกเลิกโดยไม่ได้แจ้งล่วงหน้า ขอสงวนสิทธิ์ไม่คืนค่าใช้จ่ายในการแสดงถ้ามีการยกเลิก)
พักที่           MINIA HOTEL , CAPPADOCIA โรงแรมสไตล์ถ้ำ หรือเทียบเท่า
 

DAY 5     นครใต้ดิน – พิพิธภัณฑ์เกอราม่า – โรงงานพรม / เซรามิค / เครื่องประดับ – หุบเขาอุซิซาร์ – ทะเลสาบเกลือ – เมืองอังการา                                           (B/L/D)   
** แนะนำโปรแกรมเสริมพิเศษ ไม่รวมอยู่ในราคาทัวร์ **
1. สำหรับท่านใดที่สนใจขึ้นบอลลูนชมความสวยงามของเมืองคัปปาโดเกีย โปรแกรมจะต้องออกจากโรงแรม ประมาณ 05.00 น. โดยมีรถท้องถิ่นมารับไปขึ้นบอลลูน เพื่อชมความสวยงามของเมืองคัปปาโดเกียในอีกมุมหนึ่งที่หาชมได้ยาก ใช้เวลาอยู่บนบอลลูนประมาณ 1 ชั่วโมง ค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมในการขึ้นบอลลูนอยู่ที่ท่านละ ประมาณ 250 เหรียญดอลล่าร์สหรัฐ (USD.) ขึ้นอยู่กับฤดูกาล โปรดทราบ ประกันอุบัติเหตุที่รวมอยู่ในโปรแกรมทัวร์ ไม่ครอบคลุมการขึ้นบอลลูน และ เครื่องร่อนทุกประเภท ดังนั้นขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของท่าน

2.  รถจี๊ปทัวร์ (Jeep Tour) สำหรับท่านใดที่สนใจชมความสวยงามของเมืองคัปปาโดเกียบริเวณภาคพื้นดิน โปรแกรมจำเป็นต้องออกจากโรงแรม ประมาณ 05.00 – 06.00 น. โดยมีรถท้องถิ่นมารับ เพื่อชมความสวยงามโดยรอบของเมืองคัปปาโดเกียบริเวณภาคพื้นดินในบริเวณที่รถเล็กสามารถตะลุยไปได้ ใช้เวลาอยู่บนรถจี๊ป ประมาณ 1 ชั่วโมง ค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมในการนั่งรถจี๊ปอยู่ที่ ท่านละ 120 เหรียญดอลลาร์สหรัฐ (USD) ขึ้นอยู่กับฤดูกาล โปรดทราบ ประกันอุบัติเหตุที่รวมอยู่ในโปรแกรมทัวร์ไม่ครอบคลุมกิจกรรมพิเศษ ไม่ครอบคลุมการขึ้นบอลลูน และเครื่องร่อนทุกประเภท ดังนั้นขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของท่าน

3.  รถคลาสสิคทัวร์ (Classic Tour) สำหรับท่านใดที่สนใจชมความสวยงามของเมืองคัปปาโดเกียบริเวณภาคพื้นดิน โปรแกรมจำเป็นต้องออกจากโรงแรม ประมาณ 05.00 – 06.00 น. โดยมีรถท้องถิ่นมารับ เพื่อชมความสวยงามโดยรอบของเมืองคัปปาโดเกียบริเวณภาคพื้นดินในบริเวณที่รถเล็กสามารถตะลุยไปได้ ใช้เวลาอยู่บนรถคลาสสิค ประมาณ 1 ชั่วโมง ค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมในการนั่งรถอยู่ที่ ท่านละ 100 เหรียญดอลลาร์สหรัฐ (USD) ขึ้นอยู่กับฤดูกาล โปรดทราบ ประกันอุบัติเหตุที่รวมอยู่ในโปรแกรมทัวร์ไม่ครอบคลุมกิจกรรมพิเศษ ไม่ครอบคลุมการขึ้นบอลลูน และเครื่องร่อนทุกประเภท ดังนั้นขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของท่าน

เช้า           บริการอาหาร ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านเดินทางสู่ นครใต้ดิน (UNDERGROUND CITY) เป็นสถานที่ที่ผู้นับถือศาสนาคริสต์ใช้หลบภัยชาวโรมัน ที่ต้องการทำลายร้างพวกนับถือศาสนาคริสต์ เป็นเมืองใต้ดินที่มีขนาดใหญ่ มีถึง 10 ชั้น แต่ละชั้นมีความกว้างและสูงขนาดเท่าเรายืนได้ ทำเป็นห้องๆ มีทั้งห้องครัว ห้องหมักไวน์ มีโบสถ์ ห้องโถงสำหรับใช้ประชุม มีบ่อน้ำ และระบบระบายอากาศที่ดี แต่อากาศค่อนข้างบางเบาเพราะอยู่ลึกและทางเดินบางช่วงอาจค่อนข้างแคบจนเดินสวนกันไม่ได้

นำท่านเดินทางสู่ เมืองเกอราเม่ (GOREME) เป็นเมืองที่ตั้งอยู่ในบริเวณคัปปาโดเกีย ในตอนกลางของอานาโตเลียในประเทศตุรกี เกอเรเมตั้งอยู่ในบริเวณที่เป็นที่ตั้งถิ่นฐานของผู้คนมาตั้งแต่สมัยโรมัน และเป็นที่ที่ชาวคริสเตียนยุคแรกใช้ในการเป็นที่ หลบหนีภัยจากการไล่ทำร้ายและสังหารก่อนที่คริสต์ศาสนาจะเป็นศาสนาที่ได้รับการประกาศว่าเป็นศาสนาของจักรวรรดิ ที่จะเห็นได้จากคริสต์ศาสนสถานจำนวนมากมายที่ตั้งอยู่ในบริเวณนี้ เป็นเมืองที่มีชื่อเสียงในด้านการทอพรม และ การผลิตเครื่องเซรามิคล้ำค่าแห่งหนึ่ง ที่มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลก

นำท่านเดินทางสู่ พิพิธภัณฑ์กลางแจ้ง เกอราเม่ (OPEN AIR MUSEUM OF GOREME) ซึ่งองค์กรยูเนสโก ได้ขึ้นทะเบียนพิพิธภัณฑ์กลางแจ้งแห่งนี้ ให้เป็นมรดกโลก ซึ่งเป็นศูนย์กลางของศาสนาคริสต์ในช่วง ค.ศ. 9 ซึ่งเป็นความคิดของชาวคริสต์ที่ต้องการเผยแพร่ศาสนาโดยการขุดถ้ำเป็นจำนวนมากเพื่อสร้างโบสถ์ และยังเป็นการป้องกันการรุกรานของชนเผ่าลัทธิอื่นที่ไม่เห็นด้วยกับศาสนาคริสต์
นำท่านเดินทางสู่ โรงงานทอพรม (CARPET FACTORY) , โรงงานเซรามิค (CERAMIC FACTORY) และ โรงงานเครื่องประดับ (JEWELLY FACTORY) เพื่อให้ท่านได้ชมการสาธิตกรรมวิธีการผลิตสินค้าพื้นเมืองที่มีคุณภาพและชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลก อิสระให้ท่านได้เลือกซื้อสินค้าได้ตามอัธยาศัย
เที่ยง           บริการอาหาร ณ ภัตตาคาร
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ หุบเขาอุชิซาร์ (UCHISAR VALLEY)ให้ท่านได้ถ่ายภาพด้านหน้า เป็นหุบเขาคล้ายจอมปลวกขนาดใหญ่ ใช้เป็นที่อยู่อาศัย ซึ่งหุบเขาแห่งนี้มีรูพรุน มีรอยเจาะ รอยขุด อันเกิดจากฝีมือมนุษย์ไปเกือบทั่วทั้งภูเขา เพื่อเอาไว้เป็นที่อยู่อาศัย อุชิซาร์ คือ บริเวณที่สูงที่สุดของบริเวณโดยรอบ ดังนั้นในอดีตอุชิซาร์ มีไว้ทำหน้าที่เป็นป้อมปราการที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติเอาไว้สอดส่องข้าศึกยามมีภัยอีกด้วย

                จากนั้น นำท่านเดินทางสู่ ทะเลสาบเกลือ (SALT LAKE) เป็นทะเลสาบน้ำเค็มที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของตุรกี ซึ่งเป็นทะเลสาบน้ำเค็มที่มีเปอร์เซ็นต์ของเกลือสูง หากเดินทางไปเที่ยวทะเลสาบเกลือในหน้าร้อน น้ำทะเลสาบจะเหือดแห้งเหลือเพียงแต่กองเกลือที่ตกผลึกเป็นแผ่นหนาหลายสิบเซนติเมตร มองเห็นเป็นพื้นสีขาวสุดสายตา และที่ทะเลสาบเกลือแห่งนี้ยังเคยเป็นสถานที่ถ่ายทำหนัง Star War อีกด้วย

นำท่านเดินทางท่องเที่ยว อังการา (ANKARA) เมืองหลวงและเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับสองในประเทศตุรกีรองจากอิสตันบูล เมืองอังการาเป็นที่ตั้งของรัฐบาลกลาง ส่วนราชการและสถานเอกอัครราชทูตประเทศต่างๆ
ค่ำ             บริการอาหารค่ำ ณ โรงแรมที่พัก
พักที่          THE ANKARA HOTEL , ANKARA โรงแรมระดับ 4 ดาว หรือเทียบเท่า 
 

DAY 6     สุสานมุสตาฟา เคมาล อตาเติร์ก – อิสตันบูล – ล่องเรือชมช่องแคบบอสฟอรัส –
                ตลาดสไปซ์                                                                                                  (B/L/D)
เช้า           บริการอาหาร ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านเดินทางสู่ สุสานมุสตาฟา เคมาล อตาเติร์ก (ATATURK MAUSOLEUM) เป็นอนุสรณ์สถานและสุสานของ มุสตาฟา เคมาล อตาเติร์ก ซึ่งเป็นผู้นําในสงครามการกอบกู้อิสรภาพของตุรกี หลังสงครามโลกครั้งที่ 1 ผู้ก่อตั้งสาธารณรัฐตุรกีและประธานาธิบดีคนแรก และมุสตาฟา อิสเมท อีเนอนือ ประธานาธิบดีคนที่ 2 ของตุรกี สุสานแห่งนี้ออกแบบโดยสถาปนิกชาวตุรกี สร้างขึ้นระหว่างปี ค.ศ. 1944 – 1953 มีความสําคัญกับ
ประเทศตุรกีเป็นอย่างมาก โดยมีการบันทึกลงธนบัตรลีร่าตุรกี ถูกพิมพ์ขึ้นระหว่างปี 1966 – 1987 และ ปี 1999 – 2009 ปรากฏภาพสุสานแห่งนี้บนธนบัตรลีร่าด้วย

เที่ยง           บริการอาหาร ณ ภัตตาคาร
เดินทางสู่ เมืองอิสตันบูล (ISTANBUL) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 4 ชั่วโมง)เป็นเมืองที่มีความสำคัญที่สุดของประเทศตุรกี มีประวัติศาสตร์ยาวนานหลายศตวรรษตั้งแต่ก่อนคริสตกาล มีทำเลที่ตั้งอยู่บริเวณช่องแคบบอสฟอรัส ซึ่งทำให้อิสตันบูลเป็นเมืองสำคัญเพียงเมืองเดียวในโลก ที่ตั้งอยู่ใน 2 ทวีป คือ ทวีปยุโรป (ฝั่ง THRACE ของบอสฟอรัส) และทวีปเอเชีย (ฝั่งอนาโตเลีย) สถาปัตยกรรมอันงดงามผสมผสานทั้ง 2 ทวีป ทำให้เมืองอิสตันบูลมีความเอกลักษณ์เฉพาะที่พิเศษ
นำท่าน ล่องเรือชมช่องแคบบอสฟอรัส (BOSPHORUS CRUISE) ซึ่งเป็นช่องแคบที่เชื่อมทะเลดำ (THE BLACK SEA) กับทะเลมาร์มาร่า (SEA OF MARMARA) โดยมีความยาวประมาณ 32 กิโลเมตรความกว้างเริ่มตั้งแต่ 500 เมตร จนถึง 3 กิโลเมตร ช่องแคบนี้ ถือว่าเป็นจุดบรรจบกันของสุดขอบทวีปยุโรปและสุดขอบทวีปเอเซีย ซึ่งนอกจากความสวยงามแล้ว ช่องแคบบอสฟอรัสยังเป็นจุดยุทธศาสตร์ที่สำคัญยิ่งในการป้องกันประเทศตุรกีอีกด้วย ขณะล่องเรือท่านจะได้เพลิดเพลินกับทัศนียภาพอันสวยงามของริมฝั่งช่องแคบแห่งนี้ ไม่ว่าจะเป็นพระราชวังโดลมาบาห์เชหรือบ้านเรือนสไตล์ยุโรปของบรรดาเศรษฐีทั้งหลาย
นำท่านเดินทางสู่ สไปซ์บาซาร์ (SPICE BAZAAR) เป็นตลาดเครื่องเทศตั้งอยู่ใกล้กับสะพานกาลาตา ที่นี่ถือเป็นตลาดในร่มและเป็นตลาดที่ใหญ่เป็นอันดับสองในเมืองอิสตันบูล สร้างขึ้นตั้งแต่ช่วงปี ค.ศ. 1660 โดยเป็นส่วนหนึ่งของมัสยิดใหม่ ภายในตลาดยังมีสินค้ามากมายให้ได้เลือกซื้อ อาทิ อาหาร, เครื่องเทศ, ขนมหวานของตุรกี, เครื่องเพชรพลอย, ของที่ระลึก, ผลไม้แห้ง และเครื่องประดับต่างๆ อีกด้วย
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ ร้านเตอร์กิช ดีไลท์ (TURKISH DELIGHT SHOP) คือขนมหวานขึ้นชื่อของประเทศตุรกี ซึ่งคนท้องถิ่นเรียกกันว่าโลคุม (Lokum) เป็นขนมหวานทรงลูกเต๋าที่ประกอบขึ้นจากแป้งและน้ำตาล มักจะมีอัลมอนด์ วอลนัท ถั่วพิสตาชิโอ และแมคคาเดเมียผสมเข้าไปด้วย โดยส่วนมากหน้าตาจะมีสีชมพูเข้ม แต่ก็ดูจางลงไปทันทีเมื่อเสิร์ฟกับน้ำตาลไอซิ่งที่คลุกเคล้าประหนึ่งแป้งฝุ่น มีรสหวาน สอดแทรกด้วยความกรอบและมันของถั่วคุณภาพดี ชาวตุรกีนิยมทานคู่กับชาร้อน หรือ ชากลิ่นแอปเปิล
ค่ำ               บริการอาหาร ณ ภัตตาคาร
พักที่           GOLDEN WAY HOTEL , ISTANBUL โรงแรมระดับ 4 ดาว หรือเทียบเท่า 
 

DAY 7     พระราชวังโดลมาบาห์เช – บันไดหลากสี  BALAT – กระเช้าสู่เขา PIERRELOTI –     
                BLUE MOSQUE – ฮิปโปโดรม – วิหารฮาเจีย โซเฟีย – สนามบินอิสตันบูล (B/L/–)        
เช้า           บริการอาหาร ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านเข้าชม พระราชวังโดลมาบาห์เช (DOLMABAHCE PALACE) สร้างโดยสุลต่านอับดุล เมซิด (ABDUL MECIT) ในปี 2399 ใช้เวลาสร้างถึง 30 ปี สร้างด้วยหินอ่อน ศิลปะแบบตะวันออกผสมผสานกับตะวันตก ตัวอาคารยาวถึง 600 เมตร ตั้งอยู่ริมชายฝั่งทะเลมาร์มาราในช่องแคบบอสฟอรัสบนฝั่งทวีปยุโรปจุดเด่นของพระราชวังแห่งนี้คือ มีการประดับตกแต่งด้วยความประณีตวิจิตรตระการตา มีทั้งเฟอร์นิเจอร์ พรม โคมไฟ เครื่องแก้วเจียระไน และรูปเขียน รูปถ่ายต่างๆ และที่มีชื่อเสียงมาก ได้แก่ โคมไฟแชนเดอเลียร์ ของขวัญจากประเทศอังกฤษที่สั่งทำจากแก้วคริสตัลขนาดใหญ่ที่สุดในโลกหนักถึง 5,000 กิโลกรัม ประดับดวงไฟ มากมายถึง 750 ดวง พรมทอมือผืนเดียวที่ใหญ่ที่สุดในโลก เสาหินอ่อนบันไดทางขึ้นห้องโถงตรงราวทำด้วยไม้วอลนัต ลูกกรงราวบันไดทำด้วยแก้วคริสตัล พรมชั้นเลิศราคาแพงที่สุดในโลก ทอโดย CINAR ในประเทศตุรกี เครื่องแก้วเจียระไนจากโบฮีเมียที่ดีที่สุดของประเทศสาธารณรัฐเช็ก หินอ่อนจากอียิปต์มาทำห้องอาบน้ำ (ซาวน่า) ในรูปแบบที่เรียกว่า เตอร์กิชบาธ เฟอร์นิเจอร์ทุกชิ้นที่ประดับประดาอยู่ในพระราชวังแห่งนี้ คือเฟอร์นิเจอร์ที่ดีที่สุดจากทั่วทุกมุมในโลก ที่น่าสังเกตคือมีนาฬิกาวางประดับไว้มากมาย ทุกเรือนจะชี้บอกเวลา 09:06 น. อันเป็นเวลาที่ประธานาธิบดีมุสตาฟา เคมาล อตาเติร์ก ถึงแก่อสัญกรรมในวันที่ 10 พฤศจิกายน 2484 และมีรูปภาพเหมือนของสุลต่านหลายพระองค์ที่น่าสนใจคือ รูปสุลต่านอับดุล อาซิส ผู้มีรูปร่างใหญ่มาก สูง 195 เซนติเมตร มีน้ำหนัก 200 กิโลกรัม โปรดกีฬามวยปล้ำ ขี่ม้า ยิ่งธนู เป็นสุลต่านองค์แรกที่เสด็จเยือนต่างประเทศ เช่น อียิปต์ ฝรั่งเศส อังกฤษ เบลเยี่ยม เยอรมนี ออสเตรีย และฮังการี ที่น่าทึ่งและประหลาดใจก็คือ ทุกๆ อย่างในพระราชวังเป็นของดั้งเดิม มิได้ถูกขโมยหรือทำลายเสียหาย การเข้าชมภายในพระราชวังก็ต้องเข้าชมเป็นคณะ เป็นรอบๆ มีเวลา มีมัคคุเทศก์ของวังนำชมทีละห้องทีละอาคาร มีเจ้าหน้าที่คอยควบคุมอยู่ท้ายคณะ คอยดูแลไม่ให้แตกแถวไม่ให้อยู่ห้องใดห้องหนึ่งนานเกินไป ไม่ให้จับต้องสิ่งของต่างๆ และต้องสวมถุงพลาสติกคลุมรองเท้าทุกคน เพื่อป้องกันไม่ให้พื้นปาร์เกต์อันสวยงามต้องสึกหรอ รวมทั้งพื้นพรมอันล้ำค่าเสียหาย บริเวณรอบนอกยังมีประตูทางเข้า หอนาฬิกา สวนริมทะเล อุทยานดอกไม้ น้ำพุ สระน้ำ รูปปั้น รูปสลักต่างๆ วางประดับไว้อย่างลงตัว น่าชื่นชมในรสนิยมของสุลต่านแห่งออตโตมันเป็นอย่างยิ่ง **ปิดทำการทุกวันพฤหัสบดี ถ้าตรงวันปิดขอสงวนสิทธิ์พาไปพระราชวังท๊อปกาปีแทน**
                    

จากนั้นให้ท่านได้สัมผัสบรรยากาศใหม่ ไม่เหมือนใครกับการชมเมืองอิสตันบูล รูปแบบสไตล์เมืองเก่า ย่าน BALAT & FENER ชุมชนชาวยิวเก่าแก่ กว่า 100 ปี ที่อาศัยอยู่ในเขตเมืองเก่าของกรุงอิสตันบูลโดยอยู่ฝั่งบริเวณเขตยุโรป ท่านจะได้สัมผัสความคลาสสิคของตึกเก่าที่ปลูกสร้างตามแนวสันเขาเล่นระดับแบบมีเอกลักษณ์ และที่สำคัญยังสวยงาม ด้วยสีสันสดใส สะดุดตา น่ามอง จนทำให้เกิดเป็นมุมถ่ายรูปชิคๆ เก๋ๆ มากมายในเขตชุมชนแห่งนี้

นำท่านไปนั่งกระเช้าขึ้นสู่เนินเขาปิแอร์ลอททิ (PIERRE LOTI HILL) เนินเขาซึ่งสามารถ
เห็นวิวของโกลเดนฮอร์น Golden Horn และเมืองอิสตันบูลได้อย่างสวยงามสุดลูกหูลูกตา
 
เที่ยง           บริการอาหาร ณ ภัตตาคาร
** คำแนะนำ โปรดแต่งกายด้วยชุดสุภาพ สำหรับการเข้าชมสุเหร่า **
การเข้าชมสุเหร่า จำเป็นต้องแต่งกายด้วยชุดสุภาพ และ ต้องถอดรองเท้าก่อนเข้าชม
สุภาพสตรี : ควรสวมกางเกงขายาว เสื้อแขนยาวคลุมข้อมือ มิดชิดไม่รัดรูป และเตรียมผ้าสำหรับคลุมศีรษะ
สุภาพบุรุษ : ควรสวมกางเกงขายาว และ เสื้อแขนยาว ไม่รัดรูป
นำท่านเข้าชม สุเหร่าสีน้ำเงิน (BLUE MOSQUE) หรือชื่อเดิมคือ สุเหร่าสุลต่านห์อาร์เหม็ดที่ 1 (SULTAN AHMED MOSQUE) การเข้าชมสุเหร่าทุกแห่งจะต้องถอดรองเท้า ถอดหมวก ถอดแว่นตาดำ เป็นการเคารพสถานที่ ถ่ายรูปได้ ห้ามส่งเสียงดัง และกรุณาทำกิริยาให้สำรวม สุเหร่านี้สร้างในปี 2152 เสร็จปี 2159 (1 ปีก่อนสุลต่านอาห์เหม็ดสิ้นพระชนม์ด้วยอายุเพียง 27 พรรษา) มีหอเรียกสวด อยู่ 6 หอ เป็นหอคอยสูงให้ผุ้นำศาสนาขึ้นไปตะโกนร้องเรียกจากยอด เพื่อให้ผู้คนเข้ามสวดมนต์ตามเวลาในสุเหร่า ชื่อสุเหร่าสีน้ำเงินภายในประดับด้วยกระเบื้องสีฟ้าจากอิซนิค ลวดลายเป็นดอกไม้ต่างๆ เช่น กุหลาบ ทิวลิป คาร์เนชั่น เป็นต้น ตกแต่งอย่างวิจิตรตระการตา ภายในมีที่ให้สุลต่านและนางในฮาเร็มทำละหมาดและสวดมนต์โดยเฉพาะ มีหน้าต่าง 260 บาน สนามด้านหน้าและด้านนอกจะเป็นที่ฝังศพของกษัตริย์และพระราชวงศ์และจะมีสิ่งก่อสร้างที่อำนวยความสะดวกให้กับประชาชนทั่วไป เช่น ห้องสมุด โรงพยาบาล โรงอาบน้ำ ที่พักกองคาราวาน โรงครัวสาธารณะคุลีเรีย (KULLIYE)
นำท่านเดินทางสู่ ฮิปโปโดรม (HIPPODROME) คือสิ่งก่อสร้างจากสมัยกรีกซึ่งใช้เป็นสนามแข่งม้า และการแข่งขันขับรถศึก (CHARIOT RACING) โดยคำว่า ฮิปโปส และ โดรโมส ปัจจุบันถูกนำไปใช้ในภาษาฝรั่งเศสด้วย หมายถึง การแข่งขันม้าใจกลางเมืองมอสโคว์ (CENTRAL MOSCOW HIPPODROME) น่าเสียดายที่เหลือแต่ซากปรักหักพังของ ฮิปโปโดรมของกรุงคอนสแตนติโนเปิลในอดีต หรือ อิสตันบลูในปัจจุบัน แม้จะยิ่งใหญ่และเก่าแก่ในสมัยโบราณสร้างขึ้นระหว่างปี ค.ศ. 203-330 แต่ปัจจุบันเหลือเพียง เสา 3 ต้น คือ เสาคอนสแตนตินที่ 7 (COLUMN OF CONSTANTINE VII) สร้างเมื่อไหร่ไม่มีใครทราบ แต่บูรณะเมื่อศตวรรษที่ 10 เสาต้นที่ 2 คือ เสางู ที่เชื่อว่าสร้างก่อนคริสกาลมา 479 ปี เป็นรูปสลักงู 3 ตัวพันกัน จากเมือง เดลฟี (DELPHI) แล้วถูกขนย้ายมาตั้งที่นี่เมื่อ ศตวรรษที่ 4 ปัจจุบันเหลือเพียงครึ่งต้น และเสาต้นสุดท้ายคือ เสา อิยิปต์ หรือเสาโอเบลิส (OBELISK OF THUTMOSE) สร้างในช่วงก่อนคริสตกาลประมาณ 390 ปี มีรากศัพท์มาจากภาษากรีกคือ OBELISKOS หมายถึง เหล็กแหลม เข็ม หรือ เสาปลายแหลม ลักษณะของเสาโอเบลิสก์จะเป็นเสาสูง สร้างจากหินแกรนิตขนาดใหญ่เพียงก้อนเดียว ฐานของเสาจะกว้างและค่อยๆ เรียวแหลมขึ้นสู่ยอดด้านบนเป็นแท่งสี่เหลี่ยมสี่ด้าน ยอดบนสุดจะเป็นลักษณะเหมือนปิรามิด และมักนิยมหุ้มหรือเคลือบด้วยโลหะ เช่น ทองคำ เหล็ก หรือ ทองแดง เป็นต้น เสาโอเบลิสก์เป็นเอกลักษณ์ทางศิลปะที่มีต้นกำเนิดจากอียิปต์โบราณ เป็นสัญลักษณ์แห่งเส้นทางสู่วิหารเทพเจ้า ปกติจะนิยมสร้างขึ้นเป็นคู่ ตั้งอยู่ ณ บริเวณทางเข้าวิหาร ตัวอย่างเช่นที่ วิหารลักซอร์ หรือ วิหารคาร์นัค เป็นต้น บริเวณรอบๆเสาโอเบลิสก์จะแกะสลักเป็นร่องลึกด้วยอักษรเฮียโรกลิฟฟิค บอกเล่าถึงฟาโรห์ผู้สร้าง และเรื่องราวของการสร้างเพื่อบูชาเทพเจ้า ดังนั้น เสาโอเบลิสก์จึงเป็นเสมือนหนึ่งเสาอนุสรณ์ บ่งบอกถึงนัยยะแห่งที่ตั้งของสถานที่สำคัญ หรือสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของอียิปต์
นำท่านเข้าชม วิหารฮาเจีย โซเฟีย (MOSQUE OF HAGIA SOPHIA) 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคกลาง เป็นโบสถ์คาทอลิก สร้างในสมัยพระเจ้าจัสติเนียน มีหลังคาเป็นยอดกลมแบบโม เสาในโบสถ์เป็นหินอ่อน ภายในติดกระจกสี เมื่อเติร์กเข้าครองเมือง ได้เปลี่ยนโบสถ์นี่ให้เป็นสุเหร่าในปี ค.ศ. 1453 ฉาบปูนทับกำแพงที่ปูด้วยโมเสกเป็นรูปพระเยซูคริสต์และสาวก ภายหลังทางการได้ตกลงให้วิหารฮาเกีย โซเฟีย เป็นพิพิธภัณฑ์ที่วันนี้คงบรรยากาศของความเก่าขลังอยู่เต็มเปี่ยม โดยเฉพาะโดมที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 4 ของโลกซึ่งมีพื้นที่โล่งภายในใหญ่ที่สุดในโลก ก่อสร้างด้วยการใช้ผนังเป็นตัวรับน้ำหนักของอาคารลงสู่พื้นแทนการใช้เสาค้ำยันทั่วไป นับเป็นเทคนิคการก่อสร้าง ที่ถือว่าล้ำหน้ามากในยุคนั้น (ถือเป็นหนึ่งในเหตุผลสำคัญที่ทำให้วิหารฮาเกีย โซเฟีย ได้รับการยกย่องให้เป็น 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคกลางโบราณ ) **ปิดทำการทุกวันจันทร์ ถ้าตรงวันปิดขอสงวนสิทธิ์พาไป Taksim Square แทน** 

ค่ำ            อิสระอาหารเพื่อความสะดวกในการท่องเที่ยว
ได้เวลาอันสมควรพาทุกท่านเข้าสู่สนามบินอิสตันบูลเพื่อทำการเช็คอินกลับประเทศไทย
 
 

DAY 8     อิสตันบูล - กรุงเทพฯ (สุวรรณภูมิ)  (มีอาหารและเครื่องดื่มบริการบนเครื่องบิน)
01.55         ออกเดินทางสู่ ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ ประเทศไทย โดยสายการบิน TURKISH AIRLINE เที่ยวบินที่ TK 068  ** มีบริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่องบิน ใช้เวลาบินโดยประมาณ 10 ชั่วโมง **
15.25   เดินทางถึง ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ ประเทศไทย โดยสวัสดิภาพและความประทับใจ
ทัวร์ตุรกี ทัวร์ตุรกี

เงื่อนไขทัวร์ตุรกี

อัตราค่าบริการนี้ รวม
  • ค่าบัตรโดยสารโดยเครื่องบิน (ตั๋ว) ไป และ กลับพร้อมคณะ ชั้นประหยัด (ECONOMY CLASS) รวมถึงค่าภาษีสนามบิน และค่าภาษีน้ำมันทุกแห่ง กรณีต้องการอัพเกรด UPGRADE หรือ เปลี่ยนแปลงบัตรโดยสาร ไม่ว่าเที่ยวใด เที่ยวหนึ่ง  กรุณาติดต่อเจ้าหน้าที่เป็นกรณีพิเศษ โดยอ้างอิงค่าใช้จ่ายการจองทัวร์แบบ ไม่ใช่ตั๋วเครื่องบิน ตามที่ตามที่ตารางอัตราค่าบริการระบุ
  • ค่าธรรมเนียมการโหลดกระเป๋าสัมภาระลงใต้ท้องเครื่องบิน อนุญาตให้โหลดกระเป๋าสัมภาระลงใต้ท้องเครื่องบิน โดยมีน้ำหนักไม่เกิน 30 ก.ก. (1 ชิ้น) และ ถือขึ้นเครื่องบินได้น้ำหนักไม่เกิน 7 ก.ก. (ไม่จำกัดจำนวนชิ้น แต่ทั้งนี้เจ้าหน้าที่จะพิจารณาตามความเหมาะสม) ต่อท่าน (ตามเงื่อนไขของสายการบิน)
  • ค่ารถโค้ชปรับอากาศตลอดเส้นทางตามรายการระบุ
  • ค่าโรงแรมที่พักระดับมาตรฐานตามรายการที่ระบุ (พัก 2-3 ท่าน ต่อ ห้อง) ในกรณีมีงานเทรดแฟร์ การแข่งขันกีฬา
    หรือ กิจกรรมอื่นๆ ที่ทำให้โรงแรมตามรายการที่ระยุเต็ม ทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการปรับเปลี่ยนโรงแรมที่พัก ไป
    เป็นเมืองใกล้เคียงแทน อ้างอิงมาตรฐานคุณภาพและความเหมาะสมเดิม โดยคำนึงถึงประโยชน์ของลูกค้าเป็นสำคัญ
  • ค่าธรรมเนียมเข้าชมสถานที่ต่างๆ ตามรายการที่ระบุ กรณีไม่รวมจะชี้แจงแต่ละสถานที่ในโปรแกรม
  • ค่าอาหาร ตามรายการที่ระบุ โดยทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงตามความเหมาะสม  
  • ค่ามัคคุเทศก์ที่คอยอำนวยความสะดวกตลอดการเดินทาง
  • ค่าเบี้ยประกันอุบัติเหตุในการเดินทางท่องเที่ยวต่างประเทศ วงเงินประกันสูงสุดท่านละ 1,000,000 บาท (เงื่อนไขตามกรมธรรม์)
 
อัตราค่าบริการนี้ ไม่รวม
  • ค่าใช้จ่ายส่วนตัวของผู้เดินทาง อาทิ ค่าทำหนังสือเดินทาง ค่าโทรศัพท์ ค่าอาหาร เครื่องดื่ม ค่าซักรีด ค่ามินิบาร์ในห้องและค่าพาหนะต่างๆ ที่ไม่ได้ระบุในรายการ
  • ค่าทิปพนักงานขับรถ หัวหน้าทัวร์ และ มัคคุเทศก์ท้องถิ่น ตามธรรมเนียม 70 USD  ต่อ ทริป ต่อ ลูกค้า ผู้เดินทาง 1 ท่าน รวมไปถึงเด็ก ยกเว้นเด็กอายุไม่ถึง 2 ปี ณ วันเดินทางกลับ (INFANT) ทั้งนี้ท่านสามารถให้มากกว่านี้ได้ตามความเหมาะสมและความพึงพอใจของท่าน โดยส่วนนี้ ทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการเรียกเก็บก่อนเดินทางทุกท่าน ที่สนามบิน ในวันเช็คอิน
  • ค่าธรรมเนียมในกรณีที่กระเป๋าสัมภาระที่มีน้ำหนักเกินกว่าที่สายการบินนั้นๆกำหนดหรือสัมภาระใหญ่เกินขนาดมาตรฐาน
  • ค่าธรรมเนียมการจองที่นั่งบนเครื่องบินตามความต้องการเป็นกรณีพิเศษหากสามารถทำได้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสายการบิน และ รุ่นของเครื่องบินแต่ละไฟล์ทที่ใช้บิน ซึ่งอาจเปลี่ยนแปลงได้อยู่ที่สายการบินเป็นผู้กำหนด
  • ค่าภาษีน้ำมัน ที่สายการบินเรียกเก็บเพิ่ม ภายหลังจากทางบริษัทฯได้ออกตั๋วเครื่องบินไปแล้ว
  • ภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% และภาษีหัก ณ ที่จ่าย 3% กรณีต้องการออกใบเสร็จรับเงินในนามบริษัท

** กรุณาศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมในโปรแกรมทัวร์ตุรกี **
ทัวร์ตุรกี

ทัวร์ตุรกี

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมทัวร์ตุรกี