สถานที่ท่องเที่ยวทัวร์ญี่ปุ่น
วันที่ 1 | กรุงเทพฯ สนามบินสุวรรณภูมิ |
วันที่ 2 | สนามบินชิโตเสะ ประเทศญี่ปุ่น • เมืองโนโบริเบทสึ • หุบเขาจิโกกุดานิ• กระเช้าอุสุซัง ศูนย์อนุรักษ์พันธุ์หมีสีน้ำตาล • โทยะ |
วันที่ 3 | ลานกิจกรรมหิมะ • เมืองโอตารุ • คลองโอตารุ • พิพิธภัณฑ์กล่องดนตรี • นาฬิกาไอน้ำโบราณ • ถนนซาไกมาจิ • อิออน มอลล์ |
วันที่ 4 | สวนสัตว์อาซาฮิยาม่า • หมู่บ้านราเมนอาซาฮิกาว่า • หมู่บ้านนิงเกิ้ล เทอเรซ เทศกาลหิมะซัปโปโร |
วันที่ 5 | หอนาฬิกาซัปโปโร • ดิวตี้ฟรี • ตลาดปลาโจไก • พระใหญ่อะตะมะ ไดบุตสึ • มิตซุย เอ้าท์เล็ท • ช้อปปิ้งทานุกิโคจิ |
วันที่ 6 | ท่าอากาศยานชิโตเสะ • สนามบินสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ |
วันเดินทาง | จำนวน | ผู้ใหญ่ | เด็กอายุต่ำกว่า 12 ปีไม่ใช้เตียง | พักเดี่ยว |
06 – 11 กุมภาพันธ์ 2565 | 30+1 | 65,999 | 62,999 | 15,000 |
โปรแกรมการเดินทางทัวร์ญี่ปุ่น
วันแรก กรุงเทพฯ สนามบินสุวรรณภูมิ
20.30 น. พร้อมกันที่ สนามบินสุวรรณภูมิ ขาออก ชั้น 4 ประตู 2 ROW D เคาน์เตอร์สายการบินไทย Thai AIRWAYS (TG) โดยมีเจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวกแก่ทุกท่าน
23.55 น. ออกเดินทางสู่ เมืองซัปโปโร ประเทศญี่ปุ่น โดยเที่ยวบิน TG670 (บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง)
20.30 น. พร้อมกันที่ สนามบินสุวรรณภูมิ ขาออก ชั้น 4 ประตู 2 ROW D เคาน์เตอร์สายการบินไทย Thai AIRWAYS (TG) โดยมีเจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวกแก่ทุกท่าน
23.55 น. ออกเดินทางสู่ เมืองซัปโปโร ประเทศญี่ปุ่น โดยเที่ยวบิน TG670 (บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง)
วันที่สอง สนามบินชิโตเสะ ประเทศญี่ปุ่น • เมืองโนโบริเบทสึ • หุบเขาจิโกกุดานิ• กระเช้าอุสุซัง ศูนย์อนุรักษ์พันธุ์หมีสีน้ำตาล • โทยะ
08.20 น. เดินทางถึง สนามบินชิโตเสะ เมืองซัปโปโร ประเทศญี่ปุ่น พบการต้อนรับอย่างอบอุ่นจากเจ้าหน้าที่ (เวลาท้องถิ่นที่ญี่ปุ่นเร็วกว่าประเทศไทย 2 ชั่วโมง) หลังจากผ่านขั้นตอนของกรมศุลกากรเรียบร้อยแล้ว เดินทางสู่ เมืองโนโบริเบทสึ ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของนครซัปโปโร ตั้งอยู่บนปากแม่น้ำ จึงมีพื้นที่ค่อนข้างแคบ ห่างจากชายฝั่งประมาณ 6 กิโลเมตร และเมืองนี้ยังเป็นเมืองที่ขึ้นชื่อในเรื่องของบ่อน้ำพุร้อนที่ดีที่สุดของเกาะฮอกไกโด เมืองนี้จึงมีชื่อเรียกอีกอย่างว่า เมืองน้ำพุร้อน นั่นเอง
นำท่านชม หุบเขาจิโกกุดานิ หรือมีชื่อเรียกอีกอย่างว่า หุบเขานรก ตั้งอยู่เหนือย่านบ่อน้ำร้อนโนโบริเบทสึ เป็นหุบเขาที่มีความงามอันเลื่องชื่อเพราะในหุบเขานี้มีทางเดินตามเส้นทางหุบเขาให้นักท่องเที่ยวเดินเข้าชมสัมผัสธรรมชาติอย่างใกล้ชิด ซึ่งน้ำร้อนในลำธารของหุบเขานี้มีแร่ธาตุกำมะถัน ซึ่งเป็นแหล่งต้นน้ำของย่านบ่อน้ำร้อนโนโบริเบทสึนั่นเอง
กลางวัน ä บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
จากนั้น เดินทางสู่ กระเช้าอุสุซัง ซึ่งเป็นกระเช้าที่สามารถมองเห็นวิวพาโนราม่าของทะเลสาบโทยะและภูเขาโชวะชินซัง และบริเวณใกล้เคียงยังสามารถมองเห็นภูเขาไฟอุสุ ซึ่งภูเขานี้ปะทุล่าสุดเมื่อปี 2000 ซึ่งเป็นการปะทุนี้นับสถิติแล้วเกิดขึ้นทั้งหมด 4 ครั้ง ในรอบ 100 ปี นั้นเอง (รวมค่าขึ้นกระเช้า)
นำท่านชม ศูนย์อนุรักษ์พันธุ์หมีสีน้ำตาล ซึ่งตั้งอยู่บริเวณด้านล่างของกระเช้าอุสุซัง ซึ่งพันธุ์หมีสีน้ำตาลนี้นับว่าเป็นหมีที่มีถิ่นกำเนิดที่เกาะฮอกไกโดและที่ไซบีเรีย โดยปัจจุบันหมีชนิดนี้หาชมทั่วไปได้ยากเพราะใกล้จะสูญพันธุ์แล้ว ภายในศูนย์อนุรักษ์จึงตกแต่งบรรยากาศให้ใกล้เคียงธรรมชาติมากที่สุดและมีหมีอาศัยอยู่มากกว่าร้อยตัว นอกจากนี้บริเวณทางเข้าด้านในก่อนถึงฟาร์มหมีจะมีหอชมนิทรรศการเกี่ยวกับหมีสีน้ำตาลให้ผู้เข้าชมได้ศึกษาหาความรู้เพิ่มเติม อีกทั้งยังประกอบไปด้วย ร้านค้า ร้านอาหาร และร้านจำหน่ายของที่ระลึกเพื่อเลือกซื้อเป็นของฝากได้อีกด้วย
จากนั้น เดินทางสู่โทยะ เมืองที่โอบล้อมไปด้วยธรรมชาติอันแสนบริสุทธิ์และล้อมรอบด้วยภูเขาไฟ มีทะเลสาบที่น้ำใสเหมือนกระจก เรียกว่าทะเลสาบโทยะ ซึ่งเป็นทะเลสาบปล่องภูเขาไฟขนาดใหญ่ ซึ่งย่านนี้จะเป็นย่านชื่อดังของการแช่ออนเซ็นอีกแห่งหนึ่งของเกาะฮอกไกโดด้วยเช่นกัน
ค่ำ ä บริการอาหารเย็น ณ ห้องอาหารของโรงแรม
ที่พัก TOYA SUN PALACE HOTEL ระดับ 3 ดาว หรือเทียบเท่ามาตรฐานของประเทศญี่ปุ่น
หลังจากเช็คอินเข้าที่พักเรียบร้อยแล้ว อิสระให้ท่านพักผ่อนด้วยการแช่ออนเซ็น เพื่อผ่อนคลายกล้ามเนื้อ ความเหนื่อยล้า จากการเดินทางมาตลอดทั้งวัน
(โรงแรมที่ระบุในรายการทัวร์เป็นเพียงโรงแรมที่นำเสนอเบื้องต้นเท่านั้น ซึ่งอาจมีการเปลี่ยนแปลงแต่โรงแรมที่เข้าพักจะเป็นโรงแรมระดับเทียบเท่ากัน)
08.20 น. เดินทางถึง สนามบินชิโตเสะ เมืองซัปโปโร ประเทศญี่ปุ่น พบการต้อนรับอย่างอบอุ่นจากเจ้าหน้าที่ (เวลาท้องถิ่นที่ญี่ปุ่นเร็วกว่าประเทศไทย 2 ชั่วโมง) หลังจากผ่านขั้นตอนของกรมศุลกากรเรียบร้อยแล้ว เดินทางสู่ เมืองโนโบริเบทสึ ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของนครซัปโปโร ตั้งอยู่บนปากแม่น้ำ จึงมีพื้นที่ค่อนข้างแคบ ห่างจากชายฝั่งประมาณ 6 กิโลเมตร และเมืองนี้ยังเป็นเมืองที่ขึ้นชื่อในเรื่องของบ่อน้ำพุร้อนที่ดีที่สุดของเกาะฮอกไกโด เมืองนี้จึงมีชื่อเรียกอีกอย่างว่า เมืองน้ำพุร้อน นั่นเอง
นำท่านชม หุบเขาจิโกกุดานิ หรือมีชื่อเรียกอีกอย่างว่า หุบเขานรก ตั้งอยู่เหนือย่านบ่อน้ำร้อนโนโบริเบทสึ เป็นหุบเขาที่มีความงามอันเลื่องชื่อเพราะในหุบเขานี้มีทางเดินตามเส้นทางหุบเขาให้นักท่องเที่ยวเดินเข้าชมสัมผัสธรรมชาติอย่างใกล้ชิด ซึ่งน้ำร้อนในลำธารของหุบเขานี้มีแร่ธาตุกำมะถัน ซึ่งเป็นแหล่งต้นน้ำของย่านบ่อน้ำร้อนโนโบริเบทสึนั่นเอง
กลางวัน ä บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
จากนั้น เดินทางสู่ กระเช้าอุสุซัง ซึ่งเป็นกระเช้าที่สามารถมองเห็นวิวพาโนราม่าของทะเลสาบโทยะและภูเขาโชวะชินซัง และบริเวณใกล้เคียงยังสามารถมองเห็นภูเขาไฟอุสุ ซึ่งภูเขานี้ปะทุล่าสุดเมื่อปี 2000 ซึ่งเป็นการปะทุนี้นับสถิติแล้วเกิดขึ้นทั้งหมด 4 ครั้ง ในรอบ 100 ปี นั้นเอง (รวมค่าขึ้นกระเช้า)
นำท่านชม ศูนย์อนุรักษ์พันธุ์หมีสีน้ำตาล ซึ่งตั้งอยู่บริเวณด้านล่างของกระเช้าอุสุซัง ซึ่งพันธุ์หมีสีน้ำตาลนี้นับว่าเป็นหมีที่มีถิ่นกำเนิดที่เกาะฮอกไกโดและที่ไซบีเรีย โดยปัจจุบันหมีชนิดนี้หาชมทั่วไปได้ยากเพราะใกล้จะสูญพันธุ์แล้ว ภายในศูนย์อนุรักษ์จึงตกแต่งบรรยากาศให้ใกล้เคียงธรรมชาติมากที่สุดและมีหมีอาศัยอยู่มากกว่าร้อยตัว นอกจากนี้บริเวณทางเข้าด้านในก่อนถึงฟาร์มหมีจะมีหอชมนิทรรศการเกี่ยวกับหมีสีน้ำตาลให้ผู้เข้าชมได้ศึกษาหาความรู้เพิ่มเติม อีกทั้งยังประกอบไปด้วย ร้านค้า ร้านอาหาร และร้านจำหน่ายของที่ระลึกเพื่อเลือกซื้อเป็นของฝากได้อีกด้วย
จากนั้น เดินทางสู่โทยะ เมืองที่โอบล้อมไปด้วยธรรมชาติอันแสนบริสุทธิ์และล้อมรอบด้วยภูเขาไฟ มีทะเลสาบที่น้ำใสเหมือนกระจก เรียกว่าทะเลสาบโทยะ ซึ่งเป็นทะเลสาบปล่องภูเขาไฟขนาดใหญ่ ซึ่งย่านนี้จะเป็นย่านชื่อดังของการแช่ออนเซ็นอีกแห่งหนึ่งของเกาะฮอกไกโดด้วยเช่นกัน
ค่ำ ä บริการอาหารเย็น ณ ห้องอาหารของโรงแรม
ที่พัก TOYA SUN PALACE HOTEL ระดับ 3 ดาว หรือเทียบเท่ามาตรฐานของประเทศญี่ปุ่น
หลังจากเช็คอินเข้าที่พักเรียบร้อยแล้ว อิสระให้ท่านพักผ่อนด้วยการแช่ออนเซ็น เพื่อผ่อนคลายกล้ามเนื้อ ความเหนื่อยล้า จากการเดินทางมาตลอดทั้งวัน
(โรงแรมที่ระบุในรายการทัวร์เป็นเพียงโรงแรมที่นำเสนอเบื้องต้นเท่านั้น ซึ่งอาจมีการเปลี่ยนแปลงแต่โรงแรมที่เข้าพักจะเป็นโรงแรมระดับเทียบเท่ากัน)
วันที่สาม ลานกิจกรรมหิมะ • เมืองโอตารุ • คลองโอตารุ • พิพิธภัณฑ์กล่องดนตรี • นาฬิกาไอน้ำโบราณ • ถนนซาไกมาจิ • อิออน มอลล์
เช้า ä บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านสู่ ลานกิจกรรมหิมะ ซึ่งเป็นลานกิจกรรมหิมะ ที่มีกิจกรรมให้นักท่องเที่ยวได้เข้ามาสนุกสนานท้าทายความตื่นเต้นกับกิจกรรมบนลานหิมะ ซึ่งในช่วงฤดูหนาวคนส่วนใหญ่จะนิยมไปเล่นกับกิจกรรมสโนว์โมบิล โดยมีครูฝึกและสตาฟผู้ชำนาญการคอยสอนวิธีการเล่นให้ท่านอย่างใกล้ชิด ***ค่าทัวร์ไม่รวมค่าบริการสโนว์โมบิลท่านละ 10,000 – 18,000 เยน*** ลานกิจกรรมนี้เปิดให้บริการตามสภาพอากาศ หากไม่เปิดให้บริการขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงโปรแกรม
กลางวัน ä บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
นำท่านชม คลองโอตารุ ซึ่งเป็นแลนด์มาร์กสำคัญของเกาะฮอกไกโดอีกหนึ่งแห่ง เพราะในอดีตคลองแห่งนี้เป็นท่าเรือที่สำคัญในช่วงศตวรรษที่ 20 เรือลำใหญ่จะถ่ายสินค้าลงเรือลำเล็กและลำเลียงไปตามคลอง ในเวลาต่อมามีสิ่งอำนวยความสะดวกเพิ่มมากขึ้น ทำให้สินค้าสามารถส่งผ่านเรือลำใหญ่ได้โดยตรง ไม่ต้องลำเลียงผ่านเรือลำเล็กเหมือนก่อนหน้านั้น และในปี ค.ศ. 1980 บริเวณคลองแห่งนี้ได้รับการบูรณะซ่อมแซมทำให้สวยงามเพิ่มมากขึ้นจึงเป็นจุดท่องเที่ยวที่สำคัญ และโกดังต่างๆริมคลองได้รับการปรับปรุงให้มาเป็นร้านค้า ร้านอาหาร ร้านขายของที่ระลึกและพิพิธภัณฑ์ ทำให้บรรยากาศริมคลองโอตารุครึกครื้นตลอดเวลา และในช่วงฤดูหนาวบริเวณริมคลองยังจัดให้มีเทศกาลไฟริมคลองโอตารุอีกด้วย
นำท่านชม พิพิธภัณฑ์กล่องดนตรี ตั้งอยู่บนถนนซาไกมาจิที่เมืองโอตารุ อาคารพิพิธภัณฑ์ถูกสร้างในสไตล์ตะวันตก มีอายุกว่า 100 ปีและเป็นหนึ่งในพิพิธภัณฑ์ที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่งของประเทศญี่ปุ่น เมื่อได้เข้ามาที่พิพิธภัณฑ์แห่งนี้จะได้พบกับกล่องดนตรีจำนวนมากมายมากกว่า 3,000 ชิ้น ตั้งโชว์ความสวยงามเรียงรายและมีการจำหน่ายให้แก่ผู้เข้าชมอีกด้วย การดีไซน์กล่องดนตรีนั้นมีหลากหลายให้เลือกตามความชอบ และยังมีส่วนที่ให้ผู้เยี่ยมชมสามารถทำกล่องเพลงของตนเองได้อีกด้วย
จากนั้น เมื่อเดินออกจากพิพิธภัณฑ์กล่องดนตรีแล้วจะมองเห็น หอนาฬิกาไอน้ำโบราณ ซึ่งเป็นอีกจุดแลนด์มาร์กหน้าทางเข้าพิพิธภัณฑ์ ตัวเรือนนาฬิกานี้ยังสามารถทำงานได้ดี ซึ่งเป็น 1 ใน 2 เรือนที่ยังคงเหลืออยู่บนโลกใบนี้ นาฬิกาไอน้ำเรือนนี้ได้รับมาจากเมืองแวนคูเวอร์ ประเทศแคนนาดา ซึ่งทางการได้มอบให้เป็นของขวัญกับเมืองโอตารุ นาฬิกาเรือนนี้จะส่งเสียงดนตรีเตือนเวลาออกมาให้ผู้คนที่สัญจรไปมาได้ยินทุกๆ 15 นาทีอีกด้วย
จากนั้น อิสระให้ท่านเดินช้อปปิ้ง ถนนซาไกมาจิ ซึ่งตั้งอยู่บริเวณฝั่งตรงข้ามกับพิพิธภัณฑ์กล่องดนตรี ซึ่งเป็นถนนเก่าแก่ มีประวัติอันยาวนาน ถูกสร้างขึ้นในช่วงปี 1800 – 1900 โดยถนนแห่งนี้มีความยาวตลอดทางประมาณ 750 เมตร และถูกอนุรักษ์ไว้เป็นอย่างดี อาคารต่างๆบริเวณถนนแห่งนี้ยังคงรูปลักษณ์แบบเดิมไว้และอยู่ในสภาพดีอีกด้วย ซึ่งตลอดทางแนวเดินสองฟากฝั่ง เต็มไปด้วยคาเฟ่ ร้านอาหาร ร้านขนม พิพิธภัณฑ์ ร้านเสื้อผ้า และร้านขายของที่ระลึกอย่างมากมาย คาเฟ่ที่เป็นที่นิยมอันดับต้นๆในสถานที่แห่งนี้ได้แก่ LETAO เมนูขนมหวานชีสเค้กที่ถูกใจใครหลายๆคนนั้นเอง
เดินทางสู่ อิออน มอลล์ ห้างสรรพสินค้าชั้นนำของญี่ปุ่น ที่มีสินค้ามากมายหลายชนิดในราคาย่อมเยาให้ท่านเลือกซื้อได้อย่างเพลิดเพลินไม่ว่าจะเป็นอาหาร เครื่องดื่ม เสื้อผ้า เครื่องประดับ เครื่องสำอางและยา ซึ่งห้างอิออน มอลล์ นี้ เป็นห้างสรรพสินค้าที่อยู่ในวิถีชีวิตของคนญี่ปุ่น เพราะสามารถหาซื้อสินค้าได้ทุกชนิดในแห่งเดียวได้เลย และทุกๆช่วงเทศกาลทางห้างก็มีการจัดโปรโมชั่นประจำฤดูกาลอีกด้วย อีกทั้งยังสามารถนำสินค้าไปทำเรื่องยกเว้นภาษี โดยนำสินค้าที่ซื้อมาไปที่เคาน์เตอร์ TAX REFUND พร้อมกับแสดงใบเสร็จและพาสปอร์ตก็สามารถทำเรื่องยกเว้นภาษีได้เรียบร้อย
ค่ำ äอิสระอาหารค่ำตามอัธยาศัย
ที่พัก ART HOTEL ASAHIKAWA ระดับ 3 ดาว หรือเทียบเท่ามาตรฐานของประเทศญี่ปุ่น
(โรงแรมที่ระบุในรายการทัวร์เป็นเพียงโรงแรมที่นำเสนอเบื้องต้นเท่านั้น ซึ่งอาจมีการเปลี่ยนแปลงแต่โรงแรมที่เข้าพักจะเป็นโรงแรมระดับเทียบเท่ากัน)
เช้า ä บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านสู่ ลานกิจกรรมหิมะ ซึ่งเป็นลานกิจกรรมหิมะ ที่มีกิจกรรมให้นักท่องเที่ยวได้เข้ามาสนุกสนานท้าทายความตื่นเต้นกับกิจกรรมบนลานหิมะ ซึ่งในช่วงฤดูหนาวคนส่วนใหญ่จะนิยมไปเล่นกับกิจกรรมสโนว์โมบิล โดยมีครูฝึกและสตาฟผู้ชำนาญการคอยสอนวิธีการเล่นให้ท่านอย่างใกล้ชิด ***ค่าทัวร์ไม่รวมค่าบริการสโนว์โมบิลท่านละ 10,000 – 18,000 เยน*** ลานกิจกรรมนี้เปิดให้บริการตามสภาพอากาศ หากไม่เปิดให้บริการขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงโปรแกรม
กลางวัน ä บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
นำท่านชม คลองโอตารุ ซึ่งเป็นแลนด์มาร์กสำคัญของเกาะฮอกไกโดอีกหนึ่งแห่ง เพราะในอดีตคลองแห่งนี้เป็นท่าเรือที่สำคัญในช่วงศตวรรษที่ 20 เรือลำใหญ่จะถ่ายสินค้าลงเรือลำเล็กและลำเลียงไปตามคลอง ในเวลาต่อมามีสิ่งอำนวยความสะดวกเพิ่มมากขึ้น ทำให้สินค้าสามารถส่งผ่านเรือลำใหญ่ได้โดยตรง ไม่ต้องลำเลียงผ่านเรือลำเล็กเหมือนก่อนหน้านั้น และในปี ค.ศ. 1980 บริเวณคลองแห่งนี้ได้รับการบูรณะซ่อมแซมทำให้สวยงามเพิ่มมากขึ้นจึงเป็นจุดท่องเที่ยวที่สำคัญ และโกดังต่างๆริมคลองได้รับการปรับปรุงให้มาเป็นร้านค้า ร้านอาหาร ร้านขายของที่ระลึกและพิพิธภัณฑ์ ทำให้บรรยากาศริมคลองโอตารุครึกครื้นตลอดเวลา และในช่วงฤดูหนาวบริเวณริมคลองยังจัดให้มีเทศกาลไฟริมคลองโอตารุอีกด้วย
นำท่านชม พิพิธภัณฑ์กล่องดนตรี ตั้งอยู่บนถนนซาไกมาจิที่เมืองโอตารุ อาคารพิพิธภัณฑ์ถูกสร้างในสไตล์ตะวันตก มีอายุกว่า 100 ปีและเป็นหนึ่งในพิพิธภัณฑ์ที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่งของประเทศญี่ปุ่น เมื่อได้เข้ามาที่พิพิธภัณฑ์แห่งนี้จะได้พบกับกล่องดนตรีจำนวนมากมายมากกว่า 3,000 ชิ้น ตั้งโชว์ความสวยงามเรียงรายและมีการจำหน่ายให้แก่ผู้เข้าชมอีกด้วย การดีไซน์กล่องดนตรีนั้นมีหลากหลายให้เลือกตามความชอบ และยังมีส่วนที่ให้ผู้เยี่ยมชมสามารถทำกล่องเพลงของตนเองได้อีกด้วย
จากนั้น เมื่อเดินออกจากพิพิธภัณฑ์กล่องดนตรีแล้วจะมองเห็น หอนาฬิกาไอน้ำโบราณ ซึ่งเป็นอีกจุดแลนด์มาร์กหน้าทางเข้าพิพิธภัณฑ์ ตัวเรือนนาฬิกานี้ยังสามารถทำงานได้ดี ซึ่งเป็น 1 ใน 2 เรือนที่ยังคงเหลืออยู่บนโลกใบนี้ นาฬิกาไอน้ำเรือนนี้ได้รับมาจากเมืองแวนคูเวอร์ ประเทศแคนนาดา ซึ่งทางการได้มอบให้เป็นของขวัญกับเมืองโอตารุ นาฬิกาเรือนนี้จะส่งเสียงดนตรีเตือนเวลาออกมาให้ผู้คนที่สัญจรไปมาได้ยินทุกๆ 15 นาทีอีกด้วย
จากนั้น อิสระให้ท่านเดินช้อปปิ้ง ถนนซาไกมาจิ ซึ่งตั้งอยู่บริเวณฝั่งตรงข้ามกับพิพิธภัณฑ์กล่องดนตรี ซึ่งเป็นถนนเก่าแก่ มีประวัติอันยาวนาน ถูกสร้างขึ้นในช่วงปี 1800 – 1900 โดยถนนแห่งนี้มีความยาวตลอดทางประมาณ 750 เมตร และถูกอนุรักษ์ไว้เป็นอย่างดี อาคารต่างๆบริเวณถนนแห่งนี้ยังคงรูปลักษณ์แบบเดิมไว้และอยู่ในสภาพดีอีกด้วย ซึ่งตลอดทางแนวเดินสองฟากฝั่ง เต็มไปด้วยคาเฟ่ ร้านอาหาร ร้านขนม พิพิธภัณฑ์ ร้านเสื้อผ้า และร้านขายของที่ระลึกอย่างมากมาย คาเฟ่ที่เป็นที่นิยมอันดับต้นๆในสถานที่แห่งนี้ได้แก่ LETAO เมนูขนมหวานชีสเค้กที่ถูกใจใครหลายๆคนนั้นเอง
เดินทางสู่ อิออน มอลล์ ห้างสรรพสินค้าชั้นนำของญี่ปุ่น ที่มีสินค้ามากมายหลายชนิดในราคาย่อมเยาให้ท่านเลือกซื้อได้อย่างเพลิดเพลินไม่ว่าจะเป็นอาหาร เครื่องดื่ม เสื้อผ้า เครื่องประดับ เครื่องสำอางและยา ซึ่งห้างอิออน มอลล์ นี้ เป็นห้างสรรพสินค้าที่อยู่ในวิถีชีวิตของคนญี่ปุ่น เพราะสามารถหาซื้อสินค้าได้ทุกชนิดในแห่งเดียวได้เลย และทุกๆช่วงเทศกาลทางห้างก็มีการจัดโปรโมชั่นประจำฤดูกาลอีกด้วย อีกทั้งยังสามารถนำสินค้าไปทำเรื่องยกเว้นภาษี โดยนำสินค้าที่ซื้อมาไปที่เคาน์เตอร์ TAX REFUND พร้อมกับแสดงใบเสร็จและพาสปอร์ตก็สามารถทำเรื่องยกเว้นภาษีได้เรียบร้อย
ค่ำ äอิสระอาหารค่ำตามอัธยาศัย
ที่พัก ART HOTEL ASAHIKAWA ระดับ 3 ดาว หรือเทียบเท่ามาตรฐานของประเทศญี่ปุ่น
(โรงแรมที่ระบุในรายการทัวร์เป็นเพียงโรงแรมที่นำเสนอเบื้องต้นเท่านั้น ซึ่งอาจมีการเปลี่ยนแปลงแต่โรงแรมที่เข้าพักจะเป็นโรงแรมระดับเทียบเท่ากัน)
วันที่สี่ สวนสัตว์อาซาฮิยาม่า • หมู่บ้านราเมนอาซาฮิกาว่า • หมู่บ้านนิงเกิ้ล เทอเรซ เทศกาลหิมะซัปโปโร
เช้า ä บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
เดินทางสู่ สวนสัตว์อาซาฮิยาม่า ตั้งอยู่ในเมืองอาซาฮกาวะ จังหวัดฮอกไกโด เปิดทำการมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1967 และมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในปี ค.ศ. 1997 ซึ่งเป็นสวนสัตว์ที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่งในแถบรอบนอกของเมืองอาซาฮิกาวะ มีสัตว์มากกว่า 700 ชนิด จาก 124 สายพันธุ์อาศัยอยู่ในสภาพแวดล้อมที่คล้ายคลึงกับถิ่นที่อยู่ตามธรรมชาติมากที่สุด ไฮไลท์ของที่สวนสัตว์แห่งนี้คือ “อุโมงค์แก้วเพนกวิน” ซึ่งเป็นอุโมงค์ผ่านบริเวณสระว่ายน้ำของฝูงนกเพนกวิน อีกส่วนหนึ่งคือ โดมแก้วขนาดเล็ก ซึ่งจะตั้งอยู่ตรงกลางของโซนหมีขั้วโลกและหมาป่า นอกจากนี้ยังมีโซนจัดแสดงนิทรรศการแสดงเกี่ยวกับสัตว์ป่าพื้นเมืองของฮอกไกโด เช่น กวาง นกอินทรีย์ หมาป่า เครน โดยเฉพาะเครนที่หาดูได้ยากเนื่องจากได้สูญพันธุ์ไปแล้ว และสัตว์อื่นๆจากทั่วทุกมุมโลก อาทิ หมีขั้วโลก ลิง (apez) แมวใหญ่ และยีราฟ เป็นต้น นอกจากนี้ ในช่วงประมาณกลางเดือนธันวาคม จะมีขบวนพาเหรดนกเพนกวิน ซึ่งจุดเริ่มต้นของพาเหรดนี้คือ พฤติกรรมทางธรรมชาติของเพนกวินที่จะออกเดินทางไปยังทะเล เพื่อไปหาอาหารเป็นหมู่ ทางสวนสัตว์จึงนำพฤติกรรมนี้บวกกับความต้องการที่อยากให้นกเพนกวินได้ออกกำลังกายในฤดูหนาวมารวมกันและกลายมาเป็นพาเหรกดที่เป็นยอดนิยมของสวนสัตว์แห่งนี้นี่เอง ขบวนพาเหรดนี้ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศและมีโชว์วันละ 2 รอบ รอบแรก 11.00 น. รอบที่สอง 14.30 น.
กลางวัน ä บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร (CASH BACK ท่านละ 1,000 เยน)
เดินทางสู่ หมู่บ้านราเมนอาซาฮิกาวะ ให้ท่านได้ลิ้มรสราเมนที่หลากหลายจาก 8 ร้านราเมนยอดนิยมซึ่งสถานที่แห่งนี้สร้างขึ้นมาเพื่อสื่อสารถึงวัฒนธรรมของราเมนแห่งเมืองอาซาฮิกาวะ เนื่องจากราเมนแห่งนี้มี่เอกลักษณ์เฉพาะตัวเพราะเป็นสูตรที่สร้างสรรค์มาเพื่อซึมซับอากาศหนาวพื้นที่แห่งนี้ 8 ร้านยอดนิยมในพื้นที่แห่งนี้ได้แก่ Aoba , Ittetsu-an Matsuda , Ishida , Tenkin , Santoka , Saijo , Koubo Kato และ Baikoken โดยมีหลักการตั้งต้นไม่ใช้เครื่องปรุงสังเคราะห์ จนได้ราเมนอาซาฮิกาวะแบบดั้งเดิมและทันสมัย ทำให้สามารถเลือกทานได้หลากหลายตามความต้องการ
เดินทางสู่ หมู่บ้านนิงเกิ้ลเทอเรซ ซึ่งเป็นหมู่บ้านขนาดเล็กๆ ที่มีการออกแบบที่แตกต่างจากหมู่บ้านทั่วไป โดยสร้างเป็นกระท่อมขนาดเล็กท่ามกลางสวนต้นไม้ใหญ่ที่ร่มรื่น เชื่อมต่อบ้านด้วยสะพานไม้ โดยหมู่บ้านนี้ยังมีร้านค้าให้ช้อปปิ้งกันอีกด้วย โดยจะเป็นสินค้าแฮนด์เมดและสินค้าพื้นเมืองจำพวกงานฝีมือต่างๆ สินค้าไอเดียที่ทันสมัน นอกจากจะมีจำหน่ายแล้วยังสามารถชมการทำงานฝีมือนี้ได้อีกด้วย
นำท่านชม เทศกาลหิมะซัปโปโร ครั้งที่ 73 Sapporo Snow Festival 2023 ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 04 – 11 กุมภาพันธ์ 2565 โดยภายในงานจะแสดงผลงานแกะสลักหิมะและประติมากรรมน้ำแข็ง ที่แบ่งงานแสดงออกเป็นโซนๆ โดยจัดแสดงไว้ที่บริเวณ Odori Site และ Susukino Site ซึ่งหลังจากในปี 2022 ที่มีการจัดงานในรูปแบบออนไลน์เนื่องด้วยสถานการณ์โควิด – 19 และปี 2023 นี้เป็นการกลับมาจัดงานอย่างยิ่งใหญ่ในรอบ 3 ปี อิสระให้ท่านเที่ยวชมเทศกาลตามอัธยาศัย
ค่ำ ä บริการอาหารเย็น ณ ภัตตาคาร พิเศษ!!! บุฟเฟ่ต์ขาปูยักษ์ 3 ชนิด บริการให้ทุกท่านได้เต็มอิ่ม พร้อมปิ้งย่างยากินิคุ ซูชิ เทมปูระ และ ผลไม้ประจำฤดูกาล พร้อมเครื่องดื่มซอฟท์ดริ้งไม่อั้น
ที่พัก REMBRANT STYLE SAPPORO HOTEL ระดับ 3 ดาว หรือเทียบเท่ามาตรฐานของประเทศญี่ปุ่น
(โรงแรมที่ระบุในรายการทัวร์เป็นเพียงโรงแรมที่นำเสนอเบื้องต้นเท่านั้น ซึ่งอาจมีการเปลี่ยนแปลงแต่โรงแรมที่เข้าพักจะเป็นโรงแรมระดับเทียบเท่ากัน)
เช้า ä บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
เดินทางสู่ สวนสัตว์อาซาฮิยาม่า ตั้งอยู่ในเมืองอาซาฮกาวะ จังหวัดฮอกไกโด เปิดทำการมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1967 และมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในปี ค.ศ. 1997 ซึ่งเป็นสวนสัตว์ที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่งในแถบรอบนอกของเมืองอาซาฮิกาวะ มีสัตว์มากกว่า 700 ชนิด จาก 124 สายพันธุ์อาศัยอยู่ในสภาพแวดล้อมที่คล้ายคลึงกับถิ่นที่อยู่ตามธรรมชาติมากที่สุด ไฮไลท์ของที่สวนสัตว์แห่งนี้คือ “อุโมงค์แก้วเพนกวิน” ซึ่งเป็นอุโมงค์ผ่านบริเวณสระว่ายน้ำของฝูงนกเพนกวิน อีกส่วนหนึ่งคือ โดมแก้วขนาดเล็ก ซึ่งจะตั้งอยู่ตรงกลางของโซนหมีขั้วโลกและหมาป่า นอกจากนี้ยังมีโซนจัดแสดงนิทรรศการแสดงเกี่ยวกับสัตว์ป่าพื้นเมืองของฮอกไกโด เช่น กวาง นกอินทรีย์ หมาป่า เครน โดยเฉพาะเครนที่หาดูได้ยากเนื่องจากได้สูญพันธุ์ไปแล้ว และสัตว์อื่นๆจากทั่วทุกมุมโลก อาทิ หมีขั้วโลก ลิง (apez) แมวใหญ่ และยีราฟ เป็นต้น นอกจากนี้ ในช่วงประมาณกลางเดือนธันวาคม จะมีขบวนพาเหรดนกเพนกวิน ซึ่งจุดเริ่มต้นของพาเหรดนี้คือ พฤติกรรมทางธรรมชาติของเพนกวินที่จะออกเดินทางไปยังทะเล เพื่อไปหาอาหารเป็นหมู่ ทางสวนสัตว์จึงนำพฤติกรรมนี้บวกกับความต้องการที่อยากให้นกเพนกวินได้ออกกำลังกายในฤดูหนาวมารวมกันและกลายมาเป็นพาเหรกดที่เป็นยอดนิยมของสวนสัตว์แห่งนี้นี่เอง ขบวนพาเหรดนี้ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศและมีโชว์วันละ 2 รอบ รอบแรก 11.00 น. รอบที่สอง 14.30 น.
กลางวัน ä บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร (CASH BACK ท่านละ 1,000 เยน)
เดินทางสู่ หมู่บ้านราเมนอาซาฮิกาวะ ให้ท่านได้ลิ้มรสราเมนที่หลากหลายจาก 8 ร้านราเมนยอดนิยมซึ่งสถานที่แห่งนี้สร้างขึ้นมาเพื่อสื่อสารถึงวัฒนธรรมของราเมนแห่งเมืองอาซาฮิกาวะ เนื่องจากราเมนแห่งนี้มี่เอกลักษณ์เฉพาะตัวเพราะเป็นสูตรที่สร้างสรรค์มาเพื่อซึมซับอากาศหนาวพื้นที่แห่งนี้ 8 ร้านยอดนิยมในพื้นที่แห่งนี้ได้แก่ Aoba , Ittetsu-an Matsuda , Ishida , Tenkin , Santoka , Saijo , Koubo Kato และ Baikoken โดยมีหลักการตั้งต้นไม่ใช้เครื่องปรุงสังเคราะห์ จนได้ราเมนอาซาฮิกาวะแบบดั้งเดิมและทันสมัย ทำให้สามารถเลือกทานได้หลากหลายตามความต้องการ
เดินทางสู่ หมู่บ้านนิงเกิ้ลเทอเรซ ซึ่งเป็นหมู่บ้านขนาดเล็กๆ ที่มีการออกแบบที่แตกต่างจากหมู่บ้านทั่วไป โดยสร้างเป็นกระท่อมขนาดเล็กท่ามกลางสวนต้นไม้ใหญ่ที่ร่มรื่น เชื่อมต่อบ้านด้วยสะพานไม้ โดยหมู่บ้านนี้ยังมีร้านค้าให้ช้อปปิ้งกันอีกด้วย โดยจะเป็นสินค้าแฮนด์เมดและสินค้าพื้นเมืองจำพวกงานฝีมือต่างๆ สินค้าไอเดียที่ทันสมัน นอกจากจะมีจำหน่ายแล้วยังสามารถชมการทำงานฝีมือนี้ได้อีกด้วย
นำท่านชม เทศกาลหิมะซัปโปโร ครั้งที่ 73 Sapporo Snow Festival 2023 ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 04 – 11 กุมภาพันธ์ 2565 โดยภายในงานจะแสดงผลงานแกะสลักหิมะและประติมากรรมน้ำแข็ง ที่แบ่งงานแสดงออกเป็นโซนๆ โดยจัดแสดงไว้ที่บริเวณ Odori Site และ Susukino Site ซึ่งหลังจากในปี 2022 ที่มีการจัดงานในรูปแบบออนไลน์เนื่องด้วยสถานการณ์โควิด – 19 และปี 2023 นี้เป็นการกลับมาจัดงานอย่างยิ่งใหญ่ในรอบ 3 ปี อิสระให้ท่านเที่ยวชมเทศกาลตามอัธยาศัย
ค่ำ ä บริการอาหารเย็น ณ ภัตตาคาร พิเศษ!!! บุฟเฟ่ต์ขาปูยักษ์ 3 ชนิด บริการให้ทุกท่านได้เต็มอิ่ม พร้อมปิ้งย่างยากินิคุ ซูชิ เทมปูระ และ ผลไม้ประจำฤดูกาล พร้อมเครื่องดื่มซอฟท์ดริ้งไม่อั้น
ที่พัก REMBRANT STYLE SAPPORO HOTEL ระดับ 3 ดาว หรือเทียบเท่ามาตรฐานของประเทศญี่ปุ่น
(โรงแรมที่ระบุในรายการทัวร์เป็นเพียงโรงแรมที่นำเสนอเบื้องต้นเท่านั้น ซึ่งอาจมีการเปลี่ยนแปลงแต่โรงแรมที่เข้าพักจะเป็นโรงแรมระดับเทียบเท่ากัน)
วันที่ห้า หอนาฬิกาซัปโปโร • ดิวตี้ฟรี • ตลาดปลาโจไก • พระใหญ่อะตะมะ ไดบุตสึ • มิตซุย เอ้าท์เล็ท • ช้อปปิ้งทานุกิโคจิ
เช้า ä บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
จากนั้น นำท่านผ่านชม หอนาฬิกาซัปโปโร ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของเมืองซัปโปโร ตัวอาคารของหอนาฬิกาก่อสร้างขึ้นเมื่อปี 1878 ตั้งอยู่ในเขตของวิทยาลัยเกษตรซัปโปโร ตัวเรือนนาฬิกาซื้อมาจากกรุงบอสตัน โดยปัจจุบันมีการพัฒนาและปรับปรุงสถานที่จนกลายเป็นพิพิธภัณฑ์จัดแสดงเกี่ยวกับประวัติศาสตร์การก่อสร้างให้นักท่องเที่ยวที่สนใจได้เข้าชม
นำท่านสู่ ดิวตี้ฟรีหรือร้านค้าปลอดภาษี แห่งเกาะฮอกไกโด เป็นร้านค้าปลอดภาษีแห่งเดียวในฮอกไกโด บริการสินค้าเพื่อสุขภาพ แบรนด์เนม เครื่องสำอาง เครื่องใช้ไฟฟ้า เป็นต้น ซึ่งโดยส่วนใหญ่แล้ว คนญี่ปุ่น นิยมรักษาสุขภาพด้วยการเพิ่มวิตามินให้แก่ร่างกาย จะเห็นได้ว่า วิตามินบำรุงร่างกายในประเทศญี่ปุ่นนั้น มีมากมายหลากหลายยี่ห้อ ส่วนเครื่องสำอางของประเทศญี่ปุ่นก็ไม่แพ้ที่อื่นๆเช่นกัน มีแบรนที่ขึ้นชื่อหลากหลายมากมายในญี่ปุ่น บริการที่ร้านปลอดภาษีนี้เช่นเดียวกัน
กลางวัน ä อิสระอาหารกลางวันตามอัธยาศัย
จากนั้น เดินทางสู่ตลาดปลาโจไก หรืออีกชื่อหนึ่งที่เรียกกันว่า “ตลาดโจไง” เป็นตลาดสดที่ใหญ่ที่สุดในซัปโปโร เรียกได้ว่าเป็นศูนย์กลางค้าปลีก ค้าส่ง ที่สำคัญอีกแห่งหนึ่งของเมืองซัปโปโร ตลาดแห่งนี้ได้รวมรวมของกินขึ้นชื่อ และอาหารทะเลสดๆ มาจากทั่วทุกมุมของฮอกไกโดมาไว้ที่ศูนย์กลางแห่งนี้ให้นักท่องเที่ยวได้เลือกสรรกันอย่างสะดวก ซึ่งภายในตลาดประกอบไปด้วยร้านค้า ร้านอาหารมากกว่า 70 ร้าน ไฮไลท์ที่พลาดไม่ได้สำหรับตลาดแห่งนี้นั่นคือ การเลือกซื้อปูสดๆ และให้ร้านปรุงให้ทานที่ร้านได้เลย
นำท่านชม พระใหญ่อะตะมะ ไดบุตสึ ตั้งอยู่ที่เมืองซัปโปโรตอนเหนือ เป็นผลงานชิ้นเอกของทาดาโอะ อันโดะ สถาปนิกชื่อดังของญี่ปุ่น เจ้าของรางวัลพริตซ์เกอร์ โดยสถานที่แห่งนี้มีลักษณะเป็นเนินเขาล้อมรอบรูปปั้นพระพุทธรูปมีความสูงอยู่ที่ 13.5 เมตร และมีน้ำหนัก 1500 ตัน พื้นที่ที่ล้อมรอบจะค่อยๆลาดลง และรายล้อมไปด้วยธรรมชาติ ยิ่งในช่วงฤดูร้อนจะสามารถมองเห็นต้นลาเวนเดอร์จำนวนกว่า 150,000 ต้นล้อมรอบรูปปั้นพระพุทธรูป
จากนั้น อิสระช้อปปิ้ง ณ มิตซุยเอ้าท์เล็ต ซึ่งเป็นเอ้าท์เล็ตในร่มขนาดใหญ่ มีทั้งหมด 2 ชั้น ร้านค้ามากกว่า 180 ร้าน แต่ละร้านก็จะเป็นแบรนด์ขึ้นชื่อของทั้งญี่ปุ่น และต่างประเทศไม่ว่าจะเป็น UNITED ARROWS แบรนด์ที่ได้รับความนิยมในญี่ปุ่น , WEGO แบรนด์ดังของขวัญใจวัยรุ่นญี่ปุ่น หรือจะเป็น Champion , FILA เป็นต้น แบรนด์ที่ได้รับความนิยมตลอดกาลไม่ว่าจะเป็น COACH, NIKE, ONITSUKA TIGER, ร้านขายยา MATSUMOTO KOYOSHI และร้านอื่นๆอีกมากมาย ให้เลือกซื้อกันอย่างเพลิดเพลิน หรือหากท่านใดอยากนั่งพักเพื่อทานอาหาร ที่นี่ยังมีศูนย์อาหารขนาดใหญ่ไว้บริการอีกด้วย
จากนั้น อิสระให้ท่านช้อปปิ้ง ถนนทานุกิโคจิ เป็นถนนช้อปปิ้งที่มีหลังคาคลุมระยะทางมากกว่า 1 กิโลเมตร ถูกแบ่งออกเป็น 7 บล็อก ซึ่งสองข้างทางนี้เต็มไปด้วยร้านค้ามากกว่า 100 ร้าน ไม่ว่าจะเป็น อาหาร ยาสามัญ เสื้อผ้า ร้านรองเท้ายอดฮิต อย่าง ABC MART หรือแม้แต่ร้านที่มีชื่อเสียงโด่งดังย่าง Don Quijote ก็มีอยู่ในย่านนี้เช่นกัน สถานที่แห่งนี้มีอายุมากกว่า 100 ปี และเป็นแหล่งช้อปปิ้งที่มีการจัดเทศกาลต่างๆตามแต่ละช่วงอีกด้วย
เย็น ä อิสระอาหารค่ำตามอัธยาศัย
ที่พัก REMBRANT STYLE SAPPORO HOTEL ระดับ 3 ดาว หรือเทียบเท่ามาตรฐานของประเทศญี่ปุ่น
(โรงแรมที่ระบุในรายการทัวร์เป็นเพียงโรงแรมที่นำเสนอเบื้องต้นเท่านั้น ซึ่งอาจมีการเปลี่ยนแปลงแต่โรงแรมที่เข้าพักจะเป็นโรงแรมระดับเทียบเท่ากัน)
เช้า ä บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
จากนั้น นำท่านผ่านชม หอนาฬิกาซัปโปโร ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของเมืองซัปโปโร ตัวอาคารของหอนาฬิกาก่อสร้างขึ้นเมื่อปี 1878 ตั้งอยู่ในเขตของวิทยาลัยเกษตรซัปโปโร ตัวเรือนนาฬิกาซื้อมาจากกรุงบอสตัน โดยปัจจุบันมีการพัฒนาและปรับปรุงสถานที่จนกลายเป็นพิพิธภัณฑ์จัดแสดงเกี่ยวกับประวัติศาสตร์การก่อสร้างให้นักท่องเที่ยวที่สนใจได้เข้าชม
นำท่านสู่ ดิวตี้ฟรีหรือร้านค้าปลอดภาษี แห่งเกาะฮอกไกโด เป็นร้านค้าปลอดภาษีแห่งเดียวในฮอกไกโด บริการสินค้าเพื่อสุขภาพ แบรนด์เนม เครื่องสำอาง เครื่องใช้ไฟฟ้า เป็นต้น ซึ่งโดยส่วนใหญ่แล้ว คนญี่ปุ่น นิยมรักษาสุขภาพด้วยการเพิ่มวิตามินให้แก่ร่างกาย จะเห็นได้ว่า วิตามินบำรุงร่างกายในประเทศญี่ปุ่นนั้น มีมากมายหลากหลายยี่ห้อ ส่วนเครื่องสำอางของประเทศญี่ปุ่นก็ไม่แพ้ที่อื่นๆเช่นกัน มีแบรนที่ขึ้นชื่อหลากหลายมากมายในญี่ปุ่น บริการที่ร้านปลอดภาษีนี้เช่นเดียวกัน
กลางวัน ä อิสระอาหารกลางวันตามอัธยาศัย
จากนั้น เดินทางสู่ตลาดปลาโจไก หรืออีกชื่อหนึ่งที่เรียกกันว่า “ตลาดโจไง” เป็นตลาดสดที่ใหญ่ที่สุดในซัปโปโร เรียกได้ว่าเป็นศูนย์กลางค้าปลีก ค้าส่ง ที่สำคัญอีกแห่งหนึ่งของเมืองซัปโปโร ตลาดแห่งนี้ได้รวมรวมของกินขึ้นชื่อ และอาหารทะเลสดๆ มาจากทั่วทุกมุมของฮอกไกโดมาไว้ที่ศูนย์กลางแห่งนี้ให้นักท่องเที่ยวได้เลือกสรรกันอย่างสะดวก ซึ่งภายในตลาดประกอบไปด้วยร้านค้า ร้านอาหารมากกว่า 70 ร้าน ไฮไลท์ที่พลาดไม่ได้สำหรับตลาดแห่งนี้นั่นคือ การเลือกซื้อปูสดๆ และให้ร้านปรุงให้ทานที่ร้านได้เลย
นำท่านชม พระใหญ่อะตะมะ ไดบุตสึ ตั้งอยู่ที่เมืองซัปโปโรตอนเหนือ เป็นผลงานชิ้นเอกของทาดาโอะ อันโดะ สถาปนิกชื่อดังของญี่ปุ่น เจ้าของรางวัลพริตซ์เกอร์ โดยสถานที่แห่งนี้มีลักษณะเป็นเนินเขาล้อมรอบรูปปั้นพระพุทธรูปมีความสูงอยู่ที่ 13.5 เมตร และมีน้ำหนัก 1500 ตัน พื้นที่ที่ล้อมรอบจะค่อยๆลาดลง และรายล้อมไปด้วยธรรมชาติ ยิ่งในช่วงฤดูร้อนจะสามารถมองเห็นต้นลาเวนเดอร์จำนวนกว่า 150,000 ต้นล้อมรอบรูปปั้นพระพุทธรูป
จากนั้น อิสระช้อปปิ้ง ณ มิตซุยเอ้าท์เล็ต ซึ่งเป็นเอ้าท์เล็ตในร่มขนาดใหญ่ มีทั้งหมด 2 ชั้น ร้านค้ามากกว่า 180 ร้าน แต่ละร้านก็จะเป็นแบรนด์ขึ้นชื่อของทั้งญี่ปุ่น และต่างประเทศไม่ว่าจะเป็น UNITED ARROWS แบรนด์ที่ได้รับความนิยมในญี่ปุ่น , WEGO แบรนด์ดังของขวัญใจวัยรุ่นญี่ปุ่น หรือจะเป็น Champion , FILA เป็นต้น แบรนด์ที่ได้รับความนิยมตลอดกาลไม่ว่าจะเป็น COACH, NIKE, ONITSUKA TIGER, ร้านขายยา MATSUMOTO KOYOSHI และร้านอื่นๆอีกมากมาย ให้เลือกซื้อกันอย่างเพลิดเพลิน หรือหากท่านใดอยากนั่งพักเพื่อทานอาหาร ที่นี่ยังมีศูนย์อาหารขนาดใหญ่ไว้บริการอีกด้วย
จากนั้น อิสระให้ท่านช้อปปิ้ง ถนนทานุกิโคจิ เป็นถนนช้อปปิ้งที่มีหลังคาคลุมระยะทางมากกว่า 1 กิโลเมตร ถูกแบ่งออกเป็น 7 บล็อก ซึ่งสองข้างทางนี้เต็มไปด้วยร้านค้ามากกว่า 100 ร้าน ไม่ว่าจะเป็น อาหาร ยาสามัญ เสื้อผ้า ร้านรองเท้ายอดฮิต อย่าง ABC MART หรือแม้แต่ร้านที่มีชื่อเสียงโด่งดังย่าง Don Quijote ก็มีอยู่ในย่านนี้เช่นกัน สถานที่แห่งนี้มีอายุมากกว่า 100 ปี และเป็นแหล่งช้อปปิ้งที่มีการจัดเทศกาลต่างๆตามแต่ละช่วงอีกด้วย
เย็น ä อิสระอาหารค่ำตามอัธยาศัย
ที่พัก REMBRANT STYLE SAPPORO HOTEL ระดับ 3 ดาว หรือเทียบเท่ามาตรฐานของประเทศญี่ปุ่น
(โรงแรมที่ระบุในรายการทัวร์เป็นเพียงโรงแรมที่นำเสนอเบื้องต้นเท่านั้น ซึ่งอาจมีการเปลี่ยนแปลงแต่โรงแรมที่เข้าพักจะเป็นโรงแรมระดับเทียบเท่ากัน)
วันที่หก ท่าอากาศยานชิโตเสะ • สนามบินสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ
เช้า ä บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
10.00 น. ออกเดินทางกลับกรุงเทพฯ โดยสายการบินไทย THAI AIRWAYS เที่ยวบินที่ TG671
(บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง)
15.50 น. เดินทางถึงสนามบินสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพพร้อมความประทับใจมิรู้ลืม
เช้า ä บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
10.00 น. ออกเดินทางกลับกรุงเทพฯ โดยสายการบินไทย THAI AIRWAYS เที่ยวบินที่ TG671
(บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง)
15.50 น. เดินทางถึงสนามบินสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพพร้อมความประทับใจมิรู้ลืม
เงื่อนไขทัวร์ญี่ปุ่น
อัตราค่าบริการรวม
- ตั๋วเครื่องบินไป -กลับพร้อมกรุ๊ป กรุงเทพฯ-ชิโตเสะ-กรุงเทพฯ สายการบิน Thai Airways (TG)
- ที่พักโรงแรมตามรายการ 3 คืน พักห้องละ 2-3 ท่าน (กรณีมาไม่ครบคู่และไม่ต้องการเพิ่มเงินพักห้องเดี่ยว)
- ค่าระวางน้ำหนักกระเป๋าไม่เกิน 20 กก.ต่อ 1 ใบ(โหลดได้ท่านละ 1 ใบ)กระเป๋าถือขึ้นเครื่อง Hand Carry 7 กก.ต่อ 1 ใบ
- ค่าอาหารทุกมื้อตามรายการระบุ (สงวนสิทธิ์ในการสลับมื้อหรือเปลี่ยนแปลงเมนูอาหารตามสถานการณ์)
- น้ำดื่มบริการบนรถวันละ 1 ขวด/ท่าน
- ค่าเข้าชมสถานที่ตามรายการระบุ
- ค่ารถโค้ชรับ-ส่งสถานที่ท่องเที่ยวตามรายการระบุ
- ภาษีน้ำมันและภาษีตั๋วทุกชนิด (สงวนสิทธิ์เก็บเพิ่มหากสายการบินปรับขึ้นก่อนวันเดินทาง)
- ประกันอุบัติเหตุวงเงิน 1,000,000 บาท (เป็นไปเงื่อนไขตามกรมธรรม์)
อัตราค่าบริการไม่รวม
- ค่าทำหนังสือเดินทางไทย และค่าธรรมเนียมสำหรับผู้ถือพาสปอร์ตต่างชาติ
- ค่าน้ำหนักกระเป๋าเดินทางในกรณีที่เกินกว่าสายการบินกำหนด 20 กิโลกรัมต่อท่าน
- ค่าใช้จ่ายส่วนตัว อาทิ อาหารและเครื่องดื่มที่สั่งเพิ่มพิเศษ,โทรศัพท์-โทรสาร,อินเตอร์เน็ต,มินิบาร์,ซักรีดที่ไม่ได้ระบุไว้ในรายการ
- ค่าใช้จ่ายอันเกิดจากความล่าช้าของสายการบิน,อุบัติภัยทางธรรมชาติ,การประท้วง,การจลาจล,การนัดหยุดงาน,การถูกปฏิเสธไม่ให้ออกและเข้าเมืองจากเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองและเจ้าหน้าที่กรมแรงงานทั้งที่เมืองไทยและต่างประเทศซึ่งอยู่นอกเหนือความควบคุมของบริษัทฯ
- หากหน่วยงานรัฐบาลไทย และ/หรือ ญี่ปุ่นมีการปรับเปลี่ยนข้อกำหนดเกี่ยวกับการกักตัวเพิ่มเติม และ/หรือ ขอเรียกตรวจโรคเพิ่มเติม ทางผู้เดินทางจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายส่วนเกิน
- ค่าธรรมเนียมวีซ่าเข้าประเทศญี่ปุ่น กรณีประกาศให้กลับมายื่นร้องขอวีซ่าอีกครั้ง (เนื่องจากประเทศญี่ปุ่นได้รับประกาศยกเว้นการยื่นวีซ่าเข้าประเทศให้กับคนไทยสำหรับผู้ที่ประสงค์พำนักระยะสั้นในประเทศญี่ปุ่นไม่เกิน 15 วัน)
- ภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% และภาษีหัก ณ ที่จ่าย 3%
- ค่าประกันสุขภาพ COVID-19
- ค่าตรวจ ATK หรือ RT-PCR ทีไม่มีระบุในรายการทัวร์ หากประเทศต้นทางหรือปลายทางมีกำหนดให้ตรวจ
- ค่าตรวจ RT-PCR ก่อนเดินทาง 72 ชั่วโมง หรือ ATK 24 ชั่วโมง ก่อนเดินทางออกจากประเทศไทย
- ค่าทิปไกด์,พนักงานขับรถ รวมทั้งทริป 1,500 บาท/ท่าน