สถานที่ท่องเที่ยวทัวร์ญี่ปุ่น
วันที่ 1 | กรุงเทพฯ ท่าอากาศยานดอนเมือง |
วันที่ 2 | ท่าอากาศยานนานาชาตินาริตะ – สวนไคราคุ หรือ วัดเจ้าแม่กวนอิม เทศกาลดอกไฮเดรนเยีย (ตามฤดูกาล) - ตลาดปลาโออาไร - คาเนฟุคุ เมนไต ปาร์ค - ศาลเจ้าโออาไรอิโซซากิ - เสาโทริแห่งคามิอิโซะ – ชายหาดโออาไร - เมืองนาริตะ |
วันที่ 3 | เมืองนาริตะ – จุดชมวิวชั้น 5 ภูเขาไฟฟูจิ (ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ) – กระเช้าลอยฟ้าคาจิคาจิ – การเรียนพิธีชงชาญี่ปุ่น – สวนดอกไม้ฮานะโนะมิยาโกะ หรือ เทศกาลชมดอกลาเวนเดอร์ที่ทะเลสาบคาวากุจิ (ตามฤดูกาล) - ออนเซ็น + ขาปูยักษ์ |
วันที่ 4 | ชิม ไข่ดำ ณ หุบเขาโอวาคุดานิ – ล่องเรือโจรสลัด ณ ทะเลสาบอาชิ - โตเกียว - วัดอาซากุสะ - ช้อปปิ้งถนนนากามิเสะ – ถ่ายรูป โตเกียวสกายทรี ริมแม่น้ำสุมิดะ – ช้อปปิ้งฮาราจูกุ - เมืองนาริตะ |
วันที่ 5 | จุดตรวจ RT-PCR เป็นไปตามมาตรการของรัฐบาล (ราคารวมอยู่ในค่าทัวร์แล้ว) - ชมแมวยักษ์ 3 มิติ พร้อมช้อปปิ้ง ย่านชินจูกุ – ไดเวอร์ซิตี้ ณ โอไดบะ - อิออนนาริตะ |
วันที่ 6 | ท่าอากาศยานนานาชาตินาริตะ – ท่าอากาศยานดอนเมือง - เข้าสู่ มาตรการ การกักตัวแบบ Test & Go (ค่าห้องพักจำนวน 1 คืนและการตรวจ RT-PCR 1 ครั้ง รวมอยู่ในค่าทัวร์แล้ว) |
วันที่ 7 | รอผล Test & Go |
มีน้ำดื่มบริการบนรถบัสวันละ 1 ขวด
วันเดินทาง | ราคาผู้ใหญ่ | พักเดี่ยว | อุณหภูมิ | |
30 พฤษภาคม-04 มิถุนายน 2565 | 43,888.- | 10,000.- | 14°C - 21°C | |
01-06 มิถุนายน 2565**วันเฉลิมพระชนมพรรษาราชินี | 48,888.- | 10,000.- | 14°C - 21°C | |
06-11 มิถุนายน 2565 | 43,888.- | 10,000.- | 14°C - 21°C | |
08-13 มิถุนายน 2565 | 43,888.- | 10,000.- | 15°C - 21°C | |
13-18 มิถุนายน 2565 | 43,888.- | 10,000.- | 15°C - 21°C | |
15-20 มิถุนายน 2565 | 43,888.- | 10,000.- | 15°C - 21°C | + |
20-25 มิถุนายน 2565 | 43,888.- | 10,000.- | 15°C - 21°C | + |
22-27 มิถุนายน 2565 | 43,888.- | 10,000.- | 15°C - 21°C | + |
27 มิถุนายน-02 กรกฎาคม 2565 | 43,888.- | 10,000.- | 17°C - 23°C | + |
29 มิถุนายน-04 กรกฎาคม 2565 | 43,888.- | 10,000.- | 17°C - 23°C | + |
04-09 กรกฎาคม 2565 | 43,888.- | 10,000.- | 17°C - 23°C | + |
06-11 กรกฎาคม 2565 | 43,888.- | 10,000.- | 17°C - 23°C | + |
11-16 กรกฎาคม 2565**วันอาสาฬหฯ+วันเข้าพรรษา | 48,888.- | 10,000.- | 19°C - 24°C | + |
18-23 กรกฎาคม 2565 | 46,888.- | 10,000.- | 19°C - 24°C | + |
20-25 กรกฎาคม 2565 | 46,888.- | 10,000.- | 19°C - 24°C | |
25-30 กรกฎาคม 2565 | 44,888.- | 10,000.- | 19°C - 24°C | |
27 กรกฎาคม-01 สิงหาคม 2565**วันเฉลิมพระชนมพรรษา ร.10 | 48,888.- | 10,000.- | 20°C - 25°C | |
29 กรกฎาคม-03 สิงหาคม 2565 | 46,888.- | 10,000.- | 20°C - 25°C | |
31 กรกฎาคม-05 สิงหาคม 2565 | 46,888.- | 10,000.- | 20°C - 25°C | |
01-06 สิงหาคม 2565 | 48,888.- | 10,000.- | 20°C - 25°C | |
02-07 สิงหาคม 2565 | 48,888.- | 10,000.- | 20°C - 25°C | |
03-08 สิงหาคม 2565 | 48,888.- | 10,000.- | 20°C - 25°C | |
04-09 สิงหาคม 2565 | 48,888.- | 10,000.- | 20°C - 25°C | |
05-10 สิงหาคม 2565 | 49,888.- | 10,000.- | 20°C - 25°C | |
06-11 สิงหาคม 2565 | 49,888.- | 10,000.- | 20°C - 25°C | |
07-12 สิงหาคม 2565 | 49,888.- | 10,000.- | 20°C - 25°C | |
08-13 สิงหาคม 2565**Obon | 49,888.- | 10,000.- | 21°C - 26°C | |
09-14 สิงหาคม 2565**Obon | 49,888.- | 10,000.- | 21°C - 26°C | |
10-15 สิงหาคม 2565**Obon | 49,888.- | 10,000.- | 21°C - 26°C | |
11-16 สิงหาคม 2565**Obon | 49,888.- | 10,000.- | 21°C - 26°C | |
12-17 สิงหาคม 2565**Obon | 49,888.- | 10,000.- | 21°C - 26°C | |
13-18 สิงหาคม 2565**Obon | 46,888.- | 10,000.- | 21°C - 26°C | |
14-19 สิงหาคม 2565**Obon | 46,888.- | 10,000.- | 21°C - 26°C | |
15-20 สิงหาคม 2565 | 46,888.- | 10,000.- | 21°C - 26°C | |
16-21 สิงหาคม 2565 | 46,888.- | 10,000.- | 21°C - 26°C | |
17-22 สิงหาคม 2565 | 46,888.- | 10,000.- | 21°C - 26°C | |
18-23 สิงหาคม 2565 | 46,888.- | 10,000.- | 21°C - 26°C | |
19-24 สิงหาคม 2565 | 46,888.- | 10,000.- | 21°C - 26°C | |
20-25 สิงหาคม 2565 | 46,888.- | 10,000.- | 21°C - 26°C | |
21-26 สิงหาคม 2565 | 46,888.- | 10,000.- | 21°C - 26°C | |
22-27 สิงหาคม 2565 | 43,888.- | 10,000.- | 21°C - 26°C | |
23-28 สิงหาคม 2565 | 43,888.- | 10,000.- | 21°C - 26°C | |
24-29 สิงหาคม 2565 | 43,888.- | 10,000.- | 21°C - 26°C | |
25-30 สิงหาคม 2565 | 43,888.- | 10,000.- | 21°C - 26°C | |
26-31 สิงหาคม 2565 | 43,888.- | 10,000.- | 21°C - 26°C | |
29 สิงหาคม-03 กันยายน 2565**HOT PRICE | 40,888.- | 10,000.- | 21°C - 26°C | |
31 สิงหาคม-05 กันยายน 2565 | 43,888.- | 10,000.- | 22°C - 26°C | |
05-10 กันยายน 2565**HOT PRICE | 40,888.- | 10,000.- | 22°C - 26°C | |
07-12 กันยายน 2565 | 42,888.- | 10,000.- | 22°C - 26°C | |
14-19 กันยายน 2565 | 43,888.- | 10,000.- | 22°C - 26°C | |
19-24 กันยายน 2565 | 43,888.- | 10,000.- | 22°C - 26°C | |
21-26 กันยายน 2565 | 43,888.- | 10,000.- | 22°C - 26°C | |
26 กันยายน-01 ตุลาคม 2565 | 43,888.- | 10,000.- | 22°C - 26°C | |
28 กันยายน-03 ตุลาคม 2565 | 43,888.- | 10,000.- | 22°C - 26°C | |
30 กันยายน-05 ตุลาคม 2565 | 43,888.- | 10,000.- | 22°C - 26°C | |
**ตารางวันที่เดินทางด้านบน ไม่ได้นับรวมกักตัว Test&Go อีก 1 คืน** |
โปรแกรมการเดินทางทัวร์ญี่ปุ่น
วันแรก กรุงเทพฯ ท่าอากาศยานดอนเมือง
20.30 น. พร้อมกันที่ ท่าอากาศยานดอนเมือง ชั้น 3 อาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ เคาน์เตอร์ สายการบิน AIR ASIA X เจ้าหน้าที่ของบริษัทฯ คอยให้การต้อนรับ และอำนวยความสะดวกในการเช็คอิน23.45 น. เหิรฟ้าสู่ เมืองนาริตะ ประเทศญี่ปุ่น โดยเที่ยวบินที่ XJ600
สายการบิน AIR ASIA X ใช้เครื่อง AIRBUS A330-300 จำนวน 377 ที่นั่ง จัดที่นั่งแบบ 3-3-3 (น้ำหนักกระเป๋า 20 กก./ท่าน หากต้องการซื้อน้ำหนักเพิ่ม ต้องเสียค่าใช้จ่าย)
บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง
วันที่สอง ท่าอากาศยานนานาชาตินาริตะ – สวนไคราคุ หรือ วัดเจ้าแม่กวนอิม เทศกาลดอกไฮเดรนเยีย (ตามฤดูกาล) - ตลาดปลาโออาไร - คาเนฟุคุ เมนไต ปาร์ค - ศาลเจ้าโออาไรอิโซซากิ - เสาโทริแห่งคามิอิโซะ – ชายหาดโออาไร - เมืองนาริตะ
08.00 น. เดินทางถึง ท่าอากาศยานนานาชาตินาริตะ ประเทศญี่ปุ่น นำท่านผ่านขั้นตอนการตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากร เรียบร้อยแล้ว (เวลาที่ญี่ปุ่น เร็วกว่าเมืองไทย 2 ชั่วโมง กรุณาปรับนาฬิกาของท่านเพื่อความสะดวกในการนัดหมายเวลา) ***สำคัญมาก!! ประเทศญี่ปุ่นไม่อนุญาตให้นำอาหารสด จำพวก เนื้อสัตว์ พืช ผัก ผลไม้ เข้าประเทศ หากฝ่าฝืนมีโทษปรับและจับนำท่านออกเดินทางสู่ จังหวัดอิบารากิ (Ibaraki) ตั้งอยู่ในภูมิภาคคันโตของเกาะฮอนชู ประเทศญี่ปุ่น อิบารากิซึ่งอยู่ไม่ห่างจากโตเกียว เต็มไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวอันสวยงามมากมาย โดยเฉพาะเทศกาลที่เกี่ยวกับดอกไม้ ที่มีให้ชมตลอดทั้งปี นอกจากนี้ยังเป็นเจังหวัดที่มีการผลิตนัตโตะ หรือ ถั่วเน่าญี่ปุ่น มากที่สุดในญี่ปุ่นอีกด้วย (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.40 ชั่วโมง)
นำท่านเดินทางสู่ สวนไคราคุ (Kairakuen) อยู่ที่เมืองมิโตะ จังหวัดอิบารากิ ติดอันดับ 1 ใน 3 ของสวนที่มีภูมิทัศน์สวยที่สุดในญี่ปุ่น ร่วมกับเคนโระคุเอนที่คานาซาวะและโคราคุเอนที่โอคายามะ เปิดให้เป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจสำหรับประชาชนในปีค.ศ.1842 ในช่วงต้นฤดูไบไม้ผลิ ทุกๆ วันที่ 20 กุมภาพันธ์ - 31 มีนาคม ของทุกปี จะเป็นช่วงเทศกาลดอกพลัม ที่นี่ได้ปลูกต้นดอกพลัมถึง 3000 ต้น 100 สายพันธุ์เลยทีเดียว ถัดจากนั้นก็ถึงคราวที่ดอกซากุระและดอกอาซเลีย จะเบ่งบานในช่วงปลายของฤดูใบไม้ผลิ ไฮไลท์!!! อีกอย่างของสวนนี้คือ ช่วงต้นฤดูหนาวก็จะพบกับดอกซากุระที่ผลิบานใน 2 ฤดู (นิคิซาคิซากุระ) ภายในสวนสามารถชมดอกไม้ได้หลากหลาย ที่แวะเวียนมาอวดความงามให้ชมในแต่ละฤดูกาล (ดอกไม้แต่ละชนิดจะหมุนเวียนผลัดกันบานไปตามฤดูกาล ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ)
สำหรับวันเดินทางที่ **13-18, 15-20, 20-25, 22-27 มิถุนายน 2565
27 มิถุนายน-02 กรกฎาคม, 29 มิถุนายน-04 กรกฎาคม 2565
04-09, 06-11, 11-16 และ 18-23 กรกฎาคม 2565** ปรับโปรแกรมไป
เดินทางสู่ วัดวัดอามะบิกิซัง ราคุโฮอุจิ หรือ อามะบิกิ คันนง (Amabikisan Rakuhouji or Amabiki Kannon) หรือ วัดเจ้าแม่กวนอิม อยู่ที่เมืองซากุระกาวะ จังหวัดอิบารากิ เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ บรรยากาศเงียบสงบ ชาวเมืองนิยมมาขอพรให้คลอดลูกอย่างปลอดภัย มีสุขภาพแข็งแรง เติบโตอย่างมีความสุข และว่านอนสอนง่าย โดยระหว่างวันที่ 10 มิถุนายน – 20 กรกฎาคม ของทุกปี จะมีการจัดงาน เทศกาลชมดอกไฮเดรนเยีย และในส่วนของ เทศกาลดอกไฮเดรนเยียลอยน้ำ จัดขึ้นในช่วงวันที่ 01-15 กรกฎาคม (**กำหนดการที่แน่นอนของปี 2022 จะนำมาแจ้งให้ทราบอีกครั้ง) บริเวณวัดตั้งอยู่บนเนินเขา ในช่วงฤดูร้อนที่เต็มไปด้วยดอก ไฮเดรนเยีย หรือ อาจิไซ (Ajisai) ประมาณ 5,000 ดอก จาก 90 สายพันธุ์บานสะพรั่งมีสีม่วงเข้ม ม่วงอ่อน สีฟ้าสดใส สลับกับสีชมพูบานเย็นและสีขาว สะอาดตา ทำให้ทัศนียภาพรอบๆ บริเวณวัดดูสวยงาม และบริเวณสระน้ำภายในวัด จะมีดอกไฮเดรนเยียลอยน้ำ พร้อมเป็ดน้อยที่คอยเล่นน้ำคลอเคลียไปกับไฮเดรนเยีย ภายในสระ ทำให้ดูน่าสนใจ แปลกตาแต่งดงามในคราวเดียวกัน ให้ท่านได้พักผ่อนหน่อนใจกับบรรยากาศอันเงียบสงบและดอกไฮเดรนเยียที่สวยงาม ตามอัธยาศัย
จากนั้น ออกเดินทางสู่ ตลาดปลาโออาไร (Oaraicho) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 30 นาที) ท่านสามารถอิ่มอร่อยกับอาหารทะเลสดใหม่ส่งตรงมาจากท่าเรือประมงโออาไร อาทิ ข้าวหน้าปลาดิบ หรืออาหารทะเลปิ้งย่าง นอกจากนี้ยังมีอาหารทะเลตากแห้งที่ทำเองโดยชาวประมง ซึ่งเหมาะสำหรับเป็นของฝากอีกด้วย อิสระรับประทานอาหารทะเลสดๆ แบบปิ้งย่าง เพลิดเพลินกับหลากหลายเมนู ปลาสดๆ เช่น ปลาอังโค ปลาชิราสุ (ปลาข้าวสาร) ตามแต่ฤดูกาล หอยเชลล์ หอยตลับ หอยนางรม หมึกย่างเนย และกุ้ง เป็นต้น
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ตลาดปลาโออาไร (1) Cash Back 1500Yen/Person (By Guide)
เดินทางสู่ คาเนฟุคุ เมนไต ปาร์ค (Kanefuku Mentai Park Oarai) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 5-10 นาที) หรือ พิพิทธภัณฑ์เมนไทโกะ “เมนไทโกะ (Mentaiko) คือ ไข่ปลาทาระ หรือปลาค็อดที่นำมาหมักและปรุงรส ส่วนใหญ่จะมีรสเผ็ด ถูกปากคนไทย นอกจากนี้ยังนำมาใช้เป็นวัตถุดิบผสมในเมนูอาหารญี่ปุ่น เช่น โอนิกิริ เป็นต้น” ภายในแบ่งออกเป็น 3 ส่วนหลักๆ ได้แก่ ตลาดขายผลิตภัณฑ์เมนไทโกะ โรงงานผลิตเมนไทโกะ และศูนย์อาหาร ในส่วนของโรงงาน ท่านสามารถเข้าชมขั้นตอนการผลิตไข่ปลาเมนไตโกะ ได้อย่างใกล้ชิด อีกทั้งยังสามารถลองชิมได้อีกด้วย
เดินทางสู่ ศาลเจ้าโออาไรอิโซซากิ (Oarai Isosaki Shrine) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 5-10 นาที) ศาลเจ้าที่มีประวัติศาสตร์ยาวนาน ตั้งอยู่บนเนินเขาหันหน้าสู่มหาสมุทรแปซิฟิก เป็นหนึ่งในเสาโทริอิขนาดใหญ่ที่มีชื่อเสียงในภูมิภาคคันโต ถูกเลือกให้เป็นทรัพย์สินทางวัฒนธรรมแห่งจังหวัด และได้รับความเชื่อถือมาอย่างยาวนานในฐานะเทพเจ้าผู้ให้ความคุ้มครองการคมนาคมทางทะเล และความสงบสุขภายในครอบครัว นำท่านรับพลังงานบวก ณ เสาโทริแห่งคามิอิโซะ (Kamiiso no Torii) โทริอิสีเทาที่นิ่งสงบ บนโขดหินท่ามกลางฟองคลื่นสีขาวที่สาดกระเซ็น ซึ่งเป็นที่ประดิษฐานของเทพเจ้าโอนามุจิโนะมิโคโตะ และ เทพเจ้าสุคุนะฮิโคนะโนะมิโคโตะ สร้างขึ้นตั้งแต่ 29 ธันวาคม ค.ศ.856 รวมทั้งยังเป็นจุดถ่ายรูปพระอาทิตย์ขึ้นที่มีชื่อเสียง มีนักท่องเที่ยวมากมายมาเฝ้าคอยเพื่อเก็บภาพช่วงเวลาที่แสงตะวันสาดส่องขึ้นสู่ขอบฟ้า
เดินทางสู่ ชายหาดโออาไร (Oarai Sun Beach) เป็นชายหาดน้ำตื้น กว้างสุดลูกหูลูกตา อิสระให้ท่านเดินชมบรรยากาศริมชายหาด และหากวันไหนโชคดี มีน้ำขึ้นท่วมเต็มบริเวณชายหาดและมีสภาพอากาศและเวลาที่เหมาะบริเวณชายหาดนี้จะเกิดเป็น Reflection beach หรือภาพสะท้อนบนผิวน้ำ ซึ่งถือเป็นจุดถ่ายภาพยอดนิยม ได้เวลาอันสมควรนำท่านออกเดินทาสู่ เมืองนาริตะ เพื่อเข้าสู่ที่พัก (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.40 ชั่วโมง)
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร (2)
ที่พัก Narita Gateway Hotel หรือเทียบเท่าระดับเดียวกัน
วันที่สาม เมืองนาริตะ – จุดชมวิวชั้น 5 ภูเขาไฟฟูจิ (ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ) – กระเช้าลอยฟ้าคาจิคาจิ – การเรียนพิธีชงชาญี่ปุ่น – สวนดอกไม้ฮานะโนะมิยาโกะ หรือ เทศกาลชมดอกลาเวนเดอร์ที่ทะเลสาบคาวากุจิ (ตามฤดูกาล) - ออนเซ็น + ขาปูยักษ์
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม (3)10.40 น. เดินทางถึง ภูเขาไฟฟูจิ (Mount Fuji) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2.30-3 ชั่วโมง) ที่มีความสูงเหนือจากระดับน้ำทะเล 3,776 เมตร ภูเขาที่มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักไปทั่วโลกในเรื่องความสวยงามที่ธรรมชาติได้มอบมาให้อย่างลงตัว และยังถือว่าเป็นสัญลักษณ์หนึ่งของประเทศญี่ปุ่น ทั้งยังเป็นจุดมุ่งหมายของนักท่องเที่ยวต่างชาติที่มาเยือนญี่ปุ่นตลอดทุกฤดูกาล นำท่านขึ้นสู่ชั้นที่ 5 ของภูเขาไฟฟูจิ (ขอสงวนสิทธิ์ไม่ขึ้น ในกรณีที่อากาศไม่เอื้ออำนวย หรือ ทางขึ้นปิด) ที่ทุกท่านจะได้เห็นถึงความสวยงามของตัวภูเขาและวิวโดยรอบของภูเขาไฟฟูจิ ให้ทุกท่านได้ถ่ายภาพความประทับใจเก็บไว้ และเลือกซื้อสินค้าของที่ระลึกซึ่งเป็นสัญลักษณ์รูปภูเขาไฟฟูจิในหลากหลายบรรยากาศได้อีกด้วยอิสระให้ท่านได้เพลิดเพลินกับการถ่ายรูปและซื้อของที่ระลึกตามอัธยาศัย
13.00 น. รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร (4)
นำท่านขึ้น กระเช้าลอยฟ้าคาจิคาจิ (Mt. Fuji Panoramic Ropeway) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 45 นาที) คือ กระเช้าที่ขึ้นสู่ยอดเขาเทนโจ ซึ่งอยู่ใกล้กับทะเลสาบคาวากุจิ ตัวกระเช้าเป็นกระจกใส สามารถมองวิวได้โดยรอบ และเมื่อถึงด้านบนภูเขาเท็นโจมีจุดชมวิวแบบพาโนราม่าที่มีระดับความสูง 1,075 เมตรจากระดับน้ำทะเล และมีการตกแต่งด้วยตัวการ์ตูนจากนิทานพื้นบ้านของญี่ปุ่นเรื่อง “Kachi Kachi Yama” ของ Dazai Osamu ซึ่งเกี่ยวกับกระต่ายและทานูกิ โดยนักท่องเที่ยวสามารถชมวิวได้แบบ 360 องศาทั้งทะเลสาบคาวากูจิและภูเขาไฟฟูจิ นอกจากนี้ก็ยังมีร้านขายอาหารและของที่ระลึกอีกด้วย
จากนั้นสัมผัสวัฒนธรรมดั้งเดิมของชาวญี่ปุ่น นั่นก็คือ การเรียนพิธีชงชาญี่ปุ่น (Sado) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 10-15 นาที) โดยการชงชาตามแบบญี่ปุ่นนั้น มีขั้นตอนมากมาย เริ่มตั้งแต่การชงชา การรับชา และการดื่มชา ทุกขั้นตอนนั้นล้วนมีพิธี รายละเอียดที่บรรจงและสวยงามเป็นอย่างมาก พิธีชงชานี้ ไม่ใช่แค่รับชมอย่างเดียว ยังเปิดโอกาสให้ท่านได้มีส่วนร่วมในพิธีการชงชานี้อีกด้วย และจากนั้นให้ท่านได้อิสระเลือกซื้อของที่ระลึกตามอัธยาศัย
เดินทางสู่ สวนดอกไม้ฮานะโนะมิยาโกะ (Yamanakako Hananomiyako Park) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 25-30 นาที) สวนดอกไม้ขนาดใหญ่ใกล้กับทะเลสาบยามานะกะและภูเขาไฟฟูจิมีพื้นที่ถึง 300,000 ตารางเมตร หรือประมาณ 87.5 ไร่ มีดอกไม้หลายพันธุ์ที่ปลูกไว้ให้นักท่องเที่ยวได้เดินทางมาชมตลอดทั้งปี ภายในสวนยังมีดอกไม้ที่ถูกปลูกไว้ในโดมขนาดใหญ่ ให้ท่านได้สัมผัสความงามของดอกไม้ในร่มได้แม้ในวันที่ฝนตก ไฮไลท์!!! น้ำตกเมียวจิน น้ำตกสูง 10 เมตร ยาว 800 เมตร บริเวณรอบๆ น้ำตกยังมีกังหันและมุมถ่ายรูปมากมาย สำหรับที่นี่ท่านสามารถเข้าชมดอกไม้ได้ตลอดทั้งปี โดยทางสวนมีตารางบอกช่วงเวลาบานของดอกไม้ชนิดต่างๆ ดังนี้
ปลายเดือนเมษายน-กลางเดือนพฤษภาคม : ดอกทิวลิป,
ปลายเดือนมิถุนายน-กลางเดือนกรกฎาคม : ดอกป๊อปปี้, แคลิฟอร์เนียป๊อปปี้
กลางถึงปลายเดือนสิงหาคม : ดอกทานตะวัน
ปลายเดือนสิงหาคมถึงเดือนกันยายน : ดอกบานชื่น ,ดอกคอสมอส เป็นต้น
สำหรับวันเดินทางที่ **15-20, 20-25, 22-27 มิถุนายน 2565
27 มิถุนายน-02 กรกฎาคม, 29 มิถุนายน-04 กรกฎาคม 2565
04-09, 06-11, 11-16 กรกฎาคม 2565** ปรับโปรแกรมไป
เทศกาลชมดอกลาเวนเดอร์ที่ทะเลสาบคาวากุจิ Fuji Kawaguchiko Herb Festival 2022 : JUNE 18 – JULY 10’2022 (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 10-15 นาทีจากร้านชา) จัดขึ้นที่ริมทะเลสาบคาวากุจิในช่วงต้นฤดูร้อน ซึ่งนอกจากจะจัดขึ้นเพื่อต้อนรับฤดูชมดอกลาเวนเดอร์แล้ว ยังจะได้เพลิดเพลินไปกับความงามของดอกไม้อีกหลากชนิด เช่น ดอกคาโมมายล์และสมุนไพรมากมาย โดยสถานที่จัดงานหลักคือ สวนสาธารณะยากิซาคิ (Yagizaki Park) สวนยอดนิยมที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวมากมายด้วยลาเวนเดอร์ซอฟครีมและชาสมุนไพร และสวนสาธารณะโออิชิ (Oishi Park) ที่มีภาพภูเขาฟูจิซึ่งเป็นฉากหลังของทะเลสาบคาวากุจิตัดกันกับภาพทุ่งดอกลาเวนเดอร์อย่างสวยสดงดงาม อิสระให้ท่านได้วิ่งเล่นท่ามกลางทุ่งดอกลาเวนเดอร์สีม่วงสดใส สัมผัสกลิ่นหอมสดชื่น และเพลิดเพลินกับทิวทัศน์อันงดงาม พร้อมเก็บภาพความประทับใจตามอัธยาศัย (ดอกลาเวนเดอร์จะบานหรือไม่นั้น ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ สงวนสิทธิ์หากช่วงวันเดินทางลาเวนเดอร์ไม่มีแล้ว ไกด์สามารถปรับโปรแกรมได้โดยไม่ต้องแจ้งล่วงหน้า)
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร ของโรงแรม (5) พิเศษ!! อิ่มอร่อยกับ บุฟเฟ่ต์ขาปู
ที่พัก Sun Plaza Hotel หรือเทียบเท่าระดับเดียวกัน
จากนั้นให้ท่านได้ผ่อนคลายกับการ แช่น้ำแร่ออนเซ็นธรรมชาติ เชื่อว่าถ้าได้แช่น้ำแร่แล้ว จะทำให้ผิวพรรณสวยงามและช่วยให้ระบบหมุนเวียนโลหิตดีขึ้น
วันที่สี่ ชิม ไข่ดำ ณ หุบเขาโอวาคุดานิ – ล่องเรือโจรสลัด ณ ทะเลสาบอาชิ - โตเกียว - วัดอาซากุสะ - ช้อปปิ้งถนนนากามิเสะ – ถ่ายรูป โตเกียวสกายทรี ริมแม่น้ำสุมิดะ – ช้อปปิ้งฮาราจูกุ - เมืองนาริตะ
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม (6)
เดินทางสู่ หุบเขาโอวาคุดานิ (Owakudani) คือ หุบเขาภูเขาไฟที่เกิดจากการปะทุของภูเขาคามิ ในช่วงที่ภูเขาไฟฮาโกเนะระเบิดครั้งสุดท้ายเมื่อประมาณ 3,000 ปีก่อน ดังนั้น ทำให้บริเวณนี้มีแร่กำมะถันหรือซัลเฟอร์ในปริมาณมาก ไฮไลท์!!! ชิม ไข่ดำ (Kuro-Tamago) ซึ่งเป็นไข่ต้มสุกในบ่อของหุบเขาโอวาคุดานิแห่งนี้ ว่ากันว่ากินไข่ดำหนึ่งฟอง จะอายุยืนขึ้นไปอีกเจ็ดปี (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง)
จากนั้นนำท่าน ล่องเรือโจรสลัด (Hakone Sightseeing Cruise) ณ ทะเลสาบอาชิ ใช้เวลาประมาณ 10-15 นาที ให้ท่านได้ล่องเรือชมความงามของทัศนียภาพสองข้างทาง รวมถึงวิวภูเขาไฟฟูจิอีกด้วย (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 25-30 นาที)
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร (7)
เดินทางสู่ โตเกียว (Tokyo) เมืองหลวงของประเทศญี่ปุ่น ตั้งอยู่ในภูมิภาคคันโต (Kanto) บนเกาะฮอนชู (Honshu) ในอดีตคือเมืองเอโดะ (Edo) มีรถไฟสายยามาโนเตะ (Yamanote) วนเป็นวงกลมอยู่ใจกลางเมือง มีสถานที่ท่องเที่ยวมากมาย เป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมของนักท่องเที่ยวทั่วโลก (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.30-2 ชั่วโมง)
จากนั้น นมัสการเจ้าแม่กวนอิมทองคำ ณ วัดอาซากุสะ (Asakusa Temple) วัดที่ได้ชื่อว่าเป็นวัดที่มีความศักดิ์สิทธิ์ และได้รับความเคารพนับถือมากที่สุดแห่งหนึ่งในกรุงโตเกียว ภายในประดิษฐานองค์เจ้าแม่กวนอิมทองคำที่ศักดิ์สิทธิ์ ขนาด 5.5 เซนติเมตร ซึ่งมักจะมีผู้คนมากราบไหว้ขอพรเพื่อความเป็นสิริมงคลตลอดทั้งปี ประกอบกับภายในวัดยังเป็นที่ตั้งของโคมไฟยักษ์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลกด้วยความสูง 4.5 เมตร ซึ่งแขวนห้อยอยู่ ณ ประตูทางเข้าที่อยู่ด้านหน้าสุดของวัด ที่มีชื่อว่า “Kaminari Mon หรือ ประตูฟ้าคำรณ” บริเวณทางเข้าสู่ตัววิหารจะมี ถนนนากามิเซะ (Nakamise Shopping Street) ซึ่งเป็นที่ตั้งของร้านค้าขายของที่ระลึกพื้นเมืองต่างๆ มากมาย เช่น หน้ากาก ของเล่น รองเท้า พวงกุญแจที่ระลึก และขนมนานาชนิด ทั้ง เมล่อนปังในตำนาน ดังโงะหนึบหนับ ขนมนิงเงียวยากิไส้ถั่วแดง และน้องปลาขนมไทยากิ ฯลฯ ให้ทุกท่านได้เลือกซื้อเป็นของฝากของที่ระลึก
ใกล้กันพาท่านเดินไปถ่ายรูปคู่กับ หอคอยโตเกียวสกาย ทรี (Tokyo Sky tree) หอคอยที่สูงที่สุดในโลก จัดเป็นแลนด์มาร์กอีกอย่างหนึ่งของกรุงโตเกียว บริเวณริมแม่น้ำสุมิดะ เป็นหอส่งสัญญาณโทรคมนาคมที่สูงที่สุดในโลก เปิดให้บริการตั้งแต่วันที่ 22 พฤษภาคม ค.ศ.2012 โดยหอนี้มีความสูง 634 เมตร สามารถทำลายสถิติความสูงของหอกวางตุ้ง ในมณฑลกว่างโจว ซึ่งมีความสูง 600 เมตร และหอซีเอ็น ทาวเวอร์ ในนครโทรอนโต ของแคนาดา มีความสูง 553 เมตร ทิวทัศน์ของ หอคอยโตเกียวสกายทรี ที่บรรจุเทคโนโลยีแนวหน้าสุดสามารถมองเห็นได้จากละแวกวัดอาซากุสะที่เต็มไปด้วยกลิ่นอายแบบเมืองเก่าของเอโดะ (ไม่รวมค่าขึ้นหอคอย)
เดินทางสู่ ฮาราจุกุ (Harajuku) ย่านแห่ง ป๊อปคัลเจอร์ เราจะเห็นคนญี่ปุ่นในชุดคอสเพลย์ได้ที่นี่ เป็นสถานที่ ที่ผู้ที่ชื่นชอบวัฒนธรรมวัยรุ่นจะเที่ยวได้อย่างสนุกเพลิดเพลิน นอกจากนี้ยังมี Laforet HARAJUKU ที่ครบครันด้านแฟชั่น ทั้งร้านเสื้อผ้าและสินค้าแฟชั่นต่างๆ ที่เหมาะสำหรับทุกเพศทุกวัย รวมทั้งร้านจำหน่ายสินค้าแบรนด์เนมหรู หรือจะเป็นบริเวณ ถนนทาเคชิตะ (Takeshita-dori) ที่เต็มไปด้วยร้านรวงมากมาย เช่น ร้านอาหาร ร้านเครปญี่ปุ่นที่โด่งดัง รวมไปถึงคาเฟ่น่ารักๆ และย่านฮาราจูกุแห่งนี้ยังเป็นที่ตั้งของ ศาลเจ้าเมจิ (Meiji Shrine or Meiji Jingu) ศาลเจ้าชินโตขนาดใหญ่ ที่คนญี่ปุ่นนิยมมาไหว้ขอพรในช่วงวันปีใหม่จำนวนมาก ฮาราจูกุถือเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมและเป็นย่านที่นักท่องเที่ยวจากต่างประเทศไม่ควรพลาด
18.00 น. รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร (8)
ที่พัก Narita Gateway Hotel หรือเทียบเท่าระดับเดียวกัน
วันที่ห้า จุดตรวจ RT-PCR เป็นไปตามมาตรการของรัฐบาล (ราคารวมอยู่ในค่าทัวร์แล้ว) - ชมแมวยักษ์ 3 มิติ พร้อมช้อปปิ้ง ย่านชินจูกุ – ไดเวอร์ซิตี้ ณ โอไดบะ - อิออนนาริตะ
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม (9)จากนั้นนำท่านเข้า ตรวจหาเชื้อโควิด 19 โดยแบบ RT-PCR หรือ Real Time PCR ตามมาตรการของรัฐบาล (ราคารวมอยู่ในค่าทัวร์แล้ว)
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร (10)
นำท่านช้อปปิ้ง ย่านช้อปปิ้งชินจุกุ (Shinjuku) ให้ท่านอิสระและเพลิดเพลินกับการช้อปปิ้งสินค้ามากมายทั้งเครื่องใช้ไฟฟ้า กล้องถ่ายรูปดิจิตอล นาฬิกา เครื่องเล่นเกมส์ หรือสินค้าที่จะเอาใจคุณผู้หญิงด้วย กระเป๋า รองเท้า เสื้อผ้า แบรนด์เนม เสื้อผ้าแฟชั่นสำหรับวัยรุ่น เครื่องสำอางยี่ห้อดังของญี่ปุ่นไม่ว่าจะเป็น KOSE, KANEBO, SK II, SHISEDO และอื่นๆ อีกมากมาย ห้ามพลาด!!! จุดเช็คอินแห่งใหม่ของชาวโซเชี่ยล นั่นก็คือ แมวยักษ์ 3 มิติ ที่โผล่บนจอแอลอีดีมีขนาดมหึมา จอมีความโค้งขนาด 154 ตารางเมตร (1,664 ตารางฟุต) เสียงที่ออกจากลำโพงคุณภาพเกรดดี ความละเอียดภาพระดับ 4K ถือเป็นเทคโนโลยีระดับสูง ที่ให้ภาพเสมือนจริงปรากฎเป็นภาพแมวเหมียวเดินเล่นไปมาอยู่เหนือกรุงโตเกียว
เดินทางสู่ ย่านโอไดบะ (Odaiba) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 40 นาที) คือเกาะที่สร้างขึ้นไว้เป็นแหล่งช้อปปิ้ง และแหล่งบันเทิงต่างๆ ในอ่าวโตเกียว ได้รับการปรับปรุงให้มีชื่อเสียงและเป็นที่นิยมในช่วงหลังของปี 1990 นอกจากมีสถาปัตยกรรมที่สวยงามตั้งอยู่มากมายแล้ว แต่ก็ยังคงความเป็นธรรมชาติไว้ด้วยความอุดมสมบูรณ์ของพื้นที่สีเขียว ไดเวอร์ซิตี้ โตเกียว พลาซ่า (Diver City Tokyo Plaza) เป็นห้างดังอีกห้างหนึ่ง ที่อยู่บนเกาะ โอไดบะ จุดเด่นของห้างนี้ก็คือ หุ่นยนต์กันดั้ม ขนาดเท่าของจริง ซึ่งมีขนาดใหญ่มาก ในบริเวณห้าง อิสระช้อปปิ้งตามอัธยาศัย
เดินทางสู่ อิออน มอลล์ นาริตะ (Aeon Narita Mall) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง) ห้างสรรพสินค้าที่นิยมในหมู่นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ เนื่องจากตั้งอยู่ใกล้กับสนามบินนานาชาตินาริตะ ภายในตกแต่งในรูปแบบที่ทันสมัยสไตล์ญี่ปุ่น มีร้านค้าที่หลากหลายมากกว่า 150 ร้านจำหน่ายสินค้าแฟชั่น อาหารสดใหม่ และอุปกรณ์ภายในบ้าน นอกจากนี้ยังมีร้านเสื้อผ้าแฟชั่นมากมาย เช่น MUJI, 100 yen shop, Sanrio store, Capcom games arcade และซุปเปอร์มาร์เกตขนาดใหญ่
ค่ำ อิสระรับประทานอาหารค่ำตามอัธยาศัย
ที่พัก Narita Gateway Hotel หรือเทียบเท่าระดับเดียวกัน
วันที่หก ท่าอากาศยานนานาชาตินาริตะ – ท่าอากาศยานดอนเมือง - เข้าสู่ มาตรการ การกักตัวแบบ Test & Go (ค่าห้องพักจำนวน 1 คืนและการตรวจ RT-PCR 1 ครั้ง รวมอยู่ในค่าทัวร์แล้ว)
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม (11)09.15 น. ออกเดินทางสู่ กรุงเทพฯ โดยสายการบิน แอร์เอเชีย เอ็กซ์ เที่ยวบินที่ XJ601
13.45 น. เดินทางถึง ท่าอากาศยานดอนเมือง กรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ พร้อมความประทับใจ
**สายการบินมีบริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง**
14.40 น. หลังจาก ผ่านขั้นตอนการการกลับเข้าประเทศไทย และรับกระเป๋าสัมภาระต่างๆ เรียบร้อยแล้ว นำท่านเข้าสู่กระบวนการกักตัวแบบ Test & Go โดยจะมีรถที่ประสานงานกับทางโรงแรมที่พักมารับ ณ จุดรับส่ง เพื่อนำท่านไปยังโรงแรมสำหรับตรวจคัดกรองเชื้อโควิด 19 พร้อมนอนรอฟังผล อีก 1 คืน
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ห้องพักภายในโรงแรม (12)
ที่พัก โรงแรมเกรซ กรุงเทพฯ (Grace Hotel Bangkok) เทียบเท่าระดับเดียวกัน (https://www.facebook.com/GraceHotelBangkok/)
วันที่เจ็ด รอผล Test & Go
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องพักภายในโรงแรม (13)รอผล Test & Go หากผลตรวจไม่ติดเชื้อ แยกย้ายกลับบ้านพร้อมความประทับใจ
**แต่ทว่าผลตรวจติดเชื้อโควิด เข้ารักษาและปฏิบัติตัวตามมารตรการของรัฐบาลต่อไป
เงื่อนไขทัวร์ญี่ปุ่น
อัตราค่าบริการรวม
- ค่าตั๋วเครื่องบินไป-กลับ ตามรายการที่ระบุ รวมถึงค่าภาษีสนามบิน และค่าภาษีน้ำมัน
- ค่ารถโค้ชปรับอากาศ
- โรงแรมที่พักตามที่ระบุ หรือเทียบเท่า (พัก 2-3 ท่าน/ห้อง)
- ค่าธรรมเนียมเข้าชมสถานที่ต่างๆ ตามรายการที่ระบุ
- ค่าอาหาร ตามรายการที่ระบุ
- ค่าตรวจ RT-PCR ณ ประเทศญี่ปุ่น เพื่อใช้เข้าประเทศไทย ไทย ( เงื่อนไขข้างต้นอาจมีการเปลี่ยนแปลงตามมาตรการจากทางภาครัฐ )
- ค่าโรงแรมกักตัว 1 คืน พร้อมตรวจ RT-PCR Test and go ประเทศไทย ( เงื่อนไขข้างต้นอาจมีการเปลี่ยนแปลงตามมาตรการจากทางภาครัฐ )
- ค่าเบี้ยประกันโควิด-19 ในการเดินทางท่องเที่ยว วงเงินค่ารักษาพยาบาล 50,000 USD
- ค่าเบี้ยประกัน อุบัติเหตุในระหว่างการเดินทางท่องเที่ยว วงเงินประกันท่านละ 500,000 บาท ( ไม่ครอบคลุมถึง สุขภาพ อาการเจ็บป่วย หรือ โรคประจำตัว ) กรณีเสียชีวิต จากอุบัติเหตุระหว่างการเดินทางท่องเที่ยว วงเงินประกันท่านละ 1,000,000 บาท (เงื่อนไขตามกรรมธรรม์)
- ภาษีมูลค่าเพิ่ม 7 % และ หักภาษี ณ ที่จ่าย 3 %
อัตราค่าบริการนี้ไม่รวม
- ค่าใช้จ่ายส่วนตัวของผู้เดินทาง อาทิ ค่าทำหนังสือเดินทาง ค่าโทรศัพท์ ค่าอาหาร เครื่องดื่ม ค่าซักรีด ค่ามินิบาร์ในห้องและค่าพาหนะต่างๆ ที่มิได้ระบุในรายการ
- ค่าธรรมเนียมวีซ่าเข้าประเทศญี่ปุ่น กรณีประกาศให้กลับมายื่นร้องขอวีซ่าอีกครั้ง (เนื่องจากทางญี่ปุ่นได้ประกาศยกเว้นการยื่นวีซ่าเข้าประเทศญี่ปุ่นให้กับคนไทยสำหรับผู้ที่ประสงค์พำนักระยะสั้นในประเทศญี่ปุ่นไม่เกิน 15 วัน)
- หากรัฐบาลญี่ปุ่นประกาศให้ยื่นวีซ่าตามเดิม ผู้เดินทางจะมีค่าใช้จ่ายเพิ่ม 2,000 บาท สำหรับการยื่นร้องขอวีซ่า และ ลูกค้าดำเนินการเตรียมเอกสารตามเงื่อนไข ที่สถานทูตร้องขอ
- ค่าธรรมเนียมในกรณีที่กระเป๋าสัมภาระที่มีน้ำหนักเกินกว่าที่สายการบินนั้นๆกำหนดหรือสัมภาระใหญ่เกินขนาดมาตรฐาน
- ค่าภาษีน้ำมัน ที่สายการบินเรียกเก็บเพิ่ม ภายหลังจากทางบริษัทฯได้ออกตั๋วเครื่องบินไปแล้ว
- ค่าทิปคนขับรถและพนักงานบริการประจำโรงแรม ร้านอาหารและสถานที่ท่องเที่ยว 200 บาท/วัน /ท่าน , ค่าทิปมัคคุเทศก์ (ไกด์) แล้วแต่ความพึงพอใจของท่าน